นิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์

ปกนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์

กาลครั้งหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ มีคนตัดไม้ผู้ขยันขันแข็งและซื่อสัตย์คนหนึ่ง เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย หาเลี้ยงชีพด้วยการตัดไม้จากป่า ขวานเล่มเดียวของเขาเป็นสมบัติสำคัญที่ช่วยให้เขาและครอบครัวอยู่รอดได้

แต่วันหนึ่ง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้เขาต้องสูญเสียเครื่องมือสำคัญนั้นไป เรื่องราวนี้จะเผยให้เห็นว่าความซื่อสัตย์สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของเขาได้อย่างไร… กับนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีคนตัดไม้ผู้ยากจนคนหนึ่งอาศัยอยู่ เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง และหาเลี้ยงชีพด้วยการตัดไม้จากป่าไปขาย เขามีขวานเล่มเดียวที่เป็นสมบัติล้ำค่า เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เขาเลี้ยงครอบครัวได้

เช้าวันหนึ่ง คนตัดไม้เดินลึกเข้าไปในป่าตามปกติ เขาพบต้นไม้ใหญ่ที่ดูเหมาะสมสำหรับการตัด เขาวางของลง หยิบขวานขึ้นมา และเริ่มฟันต้นไม้ เสียงขวานกระทบกับเนื้อไม้ดังสะท้อนในป่า ขณะนั้นเอง ขวานของเขาเกิดลื่นหลุดจากมือ และหล่นลงไปในแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ

“โอ้ ไม่!” คนตัดไม้ร้องลั่น “ขวานของข้า!” เขารีบวิ่งไปที่ริมแม่น้ำและมองดูน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ขวานของเขาหายไปในกระแสน้ำลึก

เขานั่งลงอย่างสิ้นหวัง “ข้าจะทำอย่างไรดี? ขวานเล่มนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างของข้า หากไม่มีมัน ข้าจะหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไร?” น้ำตาเริ่มคลอในดวงตาของเขา

ขณะที่เขากำลังเศร้าเสียใจ ทันใดนั้น แสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นกลางแม่น้ำ เทพารักษ์ผู้ใจดีในชุดสีทองเรืองรองปรากฏตัวขึ้น “คนตัดไม้ผู้ยากจนเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงร้องไห้?”

คนตัดไม้เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและตอบว่า “ข้าเผลอทำขวานหล่นลงไปในแม่น้ำ มันเป็นขวานเพียงเล่มเดียวที่ข้ามี ข้าไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้หากไม่มีมัน”

เทพารักษ์มองคนตัดไม้ด้วยความเห็นใจ “อย่าเสียใจไป ข้าจะช่วยเจ้างมขวานขึ้นมา” เทพารักษ์กล่าว ก่อนจะดำลงไปในแม่น้ำ

ไม่นานนัก เทพารักษ์ก็โผล่ขึ้นมาพร้อมขวานทองคำเล่มหนึ่ง ขวานเปล่งประกายจับตา “นี่ใช่ขวานของเจ้าหรือไม่?” เทพารักษ์ถาม

คนตัดไม้ส่ายหัวทันที “ไม่ใช่ขอรับ ขวานนี้สวยงามเกินกว่าที่ข้าจะเป็นเจ้าของ ขวานของข้าเป็นขวานเหล็กธรรมดาเท่านั้น”

เทพารักษ์พยักหน้าอย่างพอใจและดำลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง ครู่ต่อมา เขาโผล่ขึ้นมาพร้อมขวานเงินเล่มหนึ่ง “แล้วขวานเล่มนี้ล่ะ? เป็นของเจ้าหรือไม่?”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์ 2

คนตัดไม้มองขวานเงินในมือของเทพารักษ์ ก่อนจะส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ใช่ขอรับ ขวานของข้าไม่ใช่ขวานเงิน มันเป็นขวานเหล็กธรรมดา”

เทพารักษ์มองดูคนตัดไม้ด้วยสายตาชื่นชม “เจ้าช่างเป็นคนซื่อสัตย์จริงๆ” เทพารักษ์กล่าว ก่อนจะดำลงไปในน้ำอีกครั้ง และเมื่อขึ้นมา เทพารักษ์ก็ถือขวานเหล็กธรรมดาในมือ “นี่คือขวานของเจ้าหรือไม่?”

คนตัดไม้ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “ใช่แล้วขอรับ นี่คือขวานของข้า! ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า!”

เทพารักษ์มองเขาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจ ข้าอยากให้รางวัลแก่เจ้าสำหรับคุณธรรมนี้ ข้าจะมอบขวานทองคำและขวานเงินให้เจ้าด้วย นอกเหนือจากขวานเหล็กของเจ้าเอง”

คนตัดไม้ตกใจและพูดว่า “ข้าไม่อาจรับของล้ำค่าเหล่านี้ได้ ข้าเพียงแค่ดีใจที่ได้ขวานของข้าคืนมา”

“จงรับไว้เถิด” เทพารักษ์กล่าว “ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด และเจ้าสมควรได้รับรางวัลนี้”

คนตัดไม้ยอมรับขวานทั้งสามเล่มด้วยความซาบซึ้งใจ เขาขอบคุณเทพารักษ์และเดินกลับบ้านพร้อมขวานในมือและความสุขในหัวใจ จากวันนั้นเป็นต้นมา เขาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และยังคงรักษาความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมสำคัญของเขาเสมอ

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์ 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความซื่อสัตย์และความจริงใจเป็นคุณธรรมที่มีค่า ความซื่อตรงในคำพูดและการกระทำสามารถนำมาซึ่งความช่วยเหลือและผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย ผู้ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์จะได้รับความไว้วางใจและความเมตตาจากผู้อื่นเสมอ

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์ (อังกฤษ: The Honest Woodcutter หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mercury and the Woodman and The Golden Axe) เป็นนิทานอีสปเรื่องหนึ่ง ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 173 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) นิทานเรื่องนี้เป็นบทเรียนเตือนใจเกี่ยวกับความจำเป็นในการปลูกฝังความซื่อสัตย์แม้จะต้องแลกมาด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวก็ตาม

ในเวอร์ชันนิทานเวอร์ชั่นกรีกต้นตำหรับ เล่าถึงคนตัดฟืนคนหนึ่งที่ทำขวานของเขาตกลงไปในแม่น้ำ เนื่องจากขวานนี้เป็นเครื่องมือทำมาหากินเพียงชิ้นเดียว เขาจึงนั่งลงร้องไห้ด้วยความเสียใจ เทพเจ้าเฮอร์มีส (Hermes) หรือที่รู้จักในชื่อ เมอร์คิวรี (Mercury) สงสารเขา จึงดำลงไปในน้ำและนำขวานทองคำขึ้นมา

“นี่คือขวานของเจ้าหรือไม่?” เฮอร์มีสถาม แต่คนตัดฟืนตอบว่าไม่ใช่ เมื่อขวานเงินถูกนำขึ้นมา เขาก็ยังตอบเช่นเดิม จนกระทั่งเฮอร์มีสนำขวานของเขาเองขึ้นมา คนตัดฟืนจึงยอมรับอย่างซื่อสัตย์ ด้วยความประทับใจในความซื่อสัตย์ของเขา เทพเจ้าจึงยกขวานทั้งสามเล่มให้

เมื่อเพื่อนบ้านผู้ริษยาได้ยินเรื่องนี้ จึงโยนขวานของตัวเองลงไปในแม่น้ำบ้าง และร้องไห้เรียกหาขวานคืน เมื่อเฮอร์มีสปรากฏตัวพร้อมขวานทองคำ ชายผู้นั้นรีบอ้างว่าเป็นของตน แต่เพราะความโลภ เทพเจ้าจึงไม่เพียงปฏิเสธที่จะให้ขวานทองคำ แต่ยังไม่คืนขวานของเขาด้วย

นิทานเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเทพเจ้าเห็นใจคนซื่อสัตย์และไม่เป็นมิตรกับคนโกหก

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com