ในโลกนี้ หลายคนมักแสวงหาความยิ่งใหญ่จากการควบคุมสิ่งรอบตัว แต่คำสอนของเต๋าบอกว่า ความยิ่งใหญ่แท้จริงอยู่ที่การดำรงอยู่โดยไม่ฝืนธรรมชาติ ปล่อยให้สรรพสิ่งดำเนินไปตามวิถีของมันเอง นั่นคือหนทางแห่งความสงบและความสมดุล
มีนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องหนึ่ง ที่เล่าจื๊อถ่ายทอดความเร้นลับของเต๋า ผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนฟ้าดินและสรรพสิ่งทั้งหลาย ความยิ่งใหญ่และความลึกลับนั้น พร้อมกับเรียนรู้ว่าการดำรงอยู่ตามวิถีธรรมชาติคือแก่นแท้ของชีวิต กับนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องตัวแทนแห่งความเร้นลับ

เนื้อเรื่องนิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องตัวแทนแห่งความเร้นลับ
กาลหนึ่ง… ข้าออกเดินทางขึ้นเขาในยามเช้าตรู่ เส้นทางคดเคี้ยวสูงชัน ราวกับทอดตัวขึ้นไปสู่สวรรค์ ก้อนหินและต้นไม้สองข้างทางเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของข้าที่ก้องสะท้อนอยู่ในอก ยิ่งก้าวสูงขึ้นไป ความเงียบก็ยิ่งปกคลุมจนหัวใจสั่นสะท้าน
เมื่อถึงยอดเขา ข้ายืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่ไร้เมฆ หมู่บ้านเบื้องล่างเล็กลงราวกับจุดเงา ท้องฟ้ากว้างใหญ่โอบล้อมรอบตัว ความเงียบสงัดปกคลุมทุกสิ่ง ขณะนั้นเอง ข้ารู้สึกประหนึ่งถูกพาให้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุค ก่อนที่สวรรค์และปฐพีจะปรากฏ
ที่นั่น ข้าไม่เห็นสิ่งใด ไม่มีรูปร่าง ไม่มีเสียง แต่ข้ากลับสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของสิ่งหนึ่ง มันนิ่งสงบอย่างล้ำลึก แต่ในความสงบนั้นเต็มไปด้วยพลัง มันเดียวดายและไม่เปลี่ยนแปลง ขยายตัวไปทุกทิศทางอย่างไม่มีขอบเขต ราวกับไม่มีวันสิ้นสุด
ข้าหยุดยืนนิ่ง มองความว่างเปล่านั้นด้วยใจสั่นสะท้าน นี่คือสิ่งที่อยู่เหนือคำพูด เหนือการบรรยาย… สิ่งที่ดำรงอยู่ก่อนฟ้าดิน
ข้าใคร่ครวญอยู่นาน สิ่งนั้นยิ่งลึกลับจนหาคำใดจะบรรยายได้ ข้าไม่รู้จักชื่อแท้จริงของมันเลย แต่ในที่สุด ข้าจึงตั้งนามเรียกมันว่า “เต๋า”
เต๋า… คือความยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่ง มันดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่อาจถูกหยุดยั้ง และเมื่อมันดำเนินไป มันก็ห่างไกลออกไป จนสุดท้ายก็เวียนกลับมา
ข้ากวาดตามองท้องฟ้า เห็นดวงอาทิตย์โผล่พ้นเส้นขอบฟ้า แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องออกมา ข้ารู้ทันทีว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้า คือภาพสะท้อนของเต๋า มันเหมือนวัฏจักรของฤดูกาล การโคจรของดวงจันทร์ และการเต้นของลมหายใจในอกมนุษย์ ทั้งหมดคือการดำเนินไป ไกลออกไป และเวียนกลับมา
ข้ายกมือลูบเคราเบา ๆ พลางกระซิบกับตนเองว่า “นี่แหละ…ความยิ่งใหญ่ของเต๋า”

ยามที่ข้ามองออกไปจากยอดเขา ข้าเห็นผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ทอดยาวไปจนสุดสายตา เหนือขึ้นไปคือฟ้าที่ไร้ขอบเขต และเบื้องหลังความว่างเปล่านั้นคือเต๋า ข้าตระหนักทันทีว่า สิ่งที่เรียกว่ายิ่งใหญ่ หาได้มีเพียงสิ่งเดียวไม่
เต๋า ยิ่งใหญ่ เพราะมันคือรากฐานของทุกสิ่ง
สวรรค์ ยิ่งใหญ่ เพราะมันโอบอุ้มดวงดาวและสายลม
ปฐพี ยิ่งใหญ่ เพราะมันหล่อเลี้ยงทุกชีวิตให้เติบโต
และกษัตริย์นักปราชญ์ก็ยิ่งใหญ่ เพราะพวกเขาสามารถประสานตนเข้ากับวิถีของสวรรค์ ปฐพี และเต๋า
ข้าจึงรู้ว่า ในจักรวาลนี้มีอยู่สี่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเขาไม่ได้ครองด้วยอำนาจ แต่ครองด้วยการอยู่ในวิถีเดียวกันกับธรรมชาติและความจริงแท้
ข้าหันมองพื้นดินใต้เท้า ความมั่นคงของมันทำให้ข้ารู้ว่า มนุษย์ต้องดำรงตามกฎของปฐพี เพราะหากไร้ผืนดิน มนุษย์ย่อมไม่อาจยืนหยัดได้
แต่ปฐพีเองก็ยังต้องดำรงตามกฎของสวรรค์สายลม แสงแดด และฝนชโลมที่ทำให้ทุกชีวิตผลิบาน สวรรค์นั้นก็ไม่อิสระจากสิ่งใด เพราะแม้แต่ฟ้าก็ยังต้องดำรงตามกฎของเต๋า
และกฎของเต๋าเล่าคืออะไร? มันคือการเป็นอย่างที่มันเป็น ไม่ปรุงแต่ง ไม่แปรเปลี่ยนจากสัจจะของตน
ยามนั้น ข้ายืนอยู่บนยอดเขาสูงสุด รู้สึกราวกับได้เชื่อมต่อกับลมหายใจของจักรวาล ทั้งหมดคือความจริงแท้ที่ไม่มีสิ่งใดเหนือกว่า ข้าจึงเอ่ยกับตนเองว่า
“ผู้ที่รู้จักเต๋า ย่อมรู้จักรากเหง้าของทุกสิ่ง ผู้ที่เดินตามเต๋า ย่อมเดินตามหนทางที่แท้จริง”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความยิ่งใหญ่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การแสวงหาสิ่งภายนอก หากแต่อยู่ที่การดำรงอยู่โดยไม่ฝืนธรรมชาติ เต๋าเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง และเป็นหนทางที่แท้จริงซึ่งทุกชีวิตต้องดำเนินตาม นี่แหละภาพแทนของความลี้ลับ
ในนิทาน เล่าจื๊อเดินขึ้นเขาสูง จนตระหนักถึงความเร้นลับที่ดำรงอยู่ก่อนฟ้าดิน แม้มองไม่เห็นหรือจับต้องไม่ได้ แต่เต๋าก็แผ่ไปทุกที่ ทุกสิ่งล้วนดำรงตามลำดับจากเต๋า → สวรรค์ → ปฐพี → มนุษย์ หากเข้าใจเช่นนี้ ผู้อ่านจะเห็นความเชื่อมโยงระหว่างชีวิตกับจักรวาล และเรียนรู้ที่จะดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติของตนเอง
อ่านต่อ: นิทานเต้าเต๋อจิงสอนปรัชญาสุดลึกซึ้งในวิถีเต๋าให้กับชีวิตโดยเล่าจื๊อ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเต้าเต๋อจิงเรื่องตัวแทนแห่งความเร้นลับ (อังกฤษ: Representations of The Mystery) นิทานเรื่องนี้มาจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิง บทที่ 25 ซึ่งกล่าวถึง “ภาพแห่งความเร้นลับ” อันเป็นแก่นแท้ของวิถีเต๋า ก่อนฟ้าดินจะเกิดขึ้น มีสิ่งหนึ่งดำรงอยู่ สมบูรณ์ในตนเอง ไร้รูปแบบ และแผ่ไปทุกหนทุกแห่ง สิ่งนี้คือเต๋า ความยิ่งใหญ่ที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง ทั้งสวรรค์ ปฐพี และกษัตริย์นักปราชญ์ ล้วนดำรงอยู่ตามวิถีของมัน เล่าจื๊อได้บันทึกไว้ว่า:
ภาพแห่งความเร้นลับ
มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจกำหนดได้และสมบูรณ์ เกิดขึ้นก่อนฟ้าและดิน
มันสงบนิ่ง ไร้รูปร่าง ยืนเด่นอยู่เพียงลำพัง
ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ล้ำไปทุกหนแห่ง และไม่ถูกทำลายสิ่งนี้อาจถือได้ว่าเป็นแม่ของสรรพสิ่งทั้งปวง
ข้าพเจ้าไม่รู้จักชื่อของมัน จึงเรียกมันว่าเต๋า (หนทางหรือวิถี)
หากพยายามตั้งชื่อเพิ่ม ข้าพเจ้าก็เรียกมันว่ามหา
อันยิ่งใหญ่ ไหลไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
ไหลไปไกล ก็ย้อนกลับมาดังนั้น เต๋าจึงยิ่งใหญ่ ฟ้าก็ยิ่งใหญ่
ดินก็ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์ผู้ปราชญ์ก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน
ในจักรวาลมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่สี่ประการ
กษัตริย์ผู้ปราชญ์เป็นหนึ่งในนั้นมนุษย์ยึดเอากฎจากดิน
ดินยึดเอากฎจากฟ้า
ฟ้ายึดเอากฎจากเต๋า
กฎของเต๋าคือการเป็นตัวของมันเอง
เล่าจื๊อได้สอนว่า ผู้ที่เข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของเต๋า ย่อมดำรงอยู่ได้อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ ไม่ฝืนการเวียนกลับของสรรพสิ่ง รู้จักดำรงตนอย่างมั่นคง อดทน และสอดประสานกับโลกภายนอก รู้จักเวียนไปกลับและกลับคืนสู่จุดเดิมอย่างสงบ จนเข้าถึงความยิ่งใหญ่และความสมดุลแห่งชีวิต
นิทานเรื่องนี้จึงถูกแต่งขึ้นเพื่อสะท้อนคำสอนในบทดังกล่าว โดยเปรียบการขึ้นลงของภูเขาและความเวิ้งว้างของท้องฟ้ากับความเร้นลับของเต๋า แม้สิ่งที่เห็นจะว่างเปล่าและนิ่งสงบ แต่แท้จริงแล้วคือการดำรงอยู่ของสรรพสิ่งอย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุด และนี่คือหัวใจของ “ตัวแทนแห่งความเร้นลับ” ที่เล่าจื๊ออยากให้ผู้คนได้ตระหนักและเรียนรู้
คติธรรม: “ผู้ที่เข้าใจเต๋า ย่อมดำรงอยู่ตามสัจจะของสรรพสิ่ง และไม่ฝืนวิถีแห่งความยิ่งใหญ่”