เมื่อเราพูดถึง “การฆ่า” เรามักนึกถึงเลือด ดาบ หรือความรุนแรง แต่น้อยคนนักจะมองเห็น “การฆ่า” ที่เกิดจากถ้อยคำ การสอน หรือแม้แต่ความเงียบที่ปล่อยให้สิ่งสำคัญค่อย ๆ สูญสลาย
นี่คือนิทานเซนว่าด้วยการฆ่าที่ไม่มีเลือด ไม่มีเสียงกรีดร้อง แต่ทิ้งรอยลึกกว่ามีดใด กับนิทานเซนเรื่องการฆ่า

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการฆ่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แสงแดดยามเช้าส่องลอดยอดไม้ในวัดบนเขา เสียงระฆังดังกังวานเรียกลูกศิษย์มารวมตัวกันหน้าศาลาธรรม พระอาจารย์กาซันนั่งนิ่งอยู่กลางลาน ใบหน้านิ่งเฉยแต่แววตาคมกริบ วันนี้เป็นวันที่ท่านจะกล่าวธรรมแก่เหล่าศิษย์ผู้ตั้งใจฝึก
“ผู้ที่กล่าวต่อต้านการฆ่า และปรารถนาจะปกป้องชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย… เขาเหล่านั้นเป็นผู้ถูกต้อง” เสียงของพระอาจารย์กาซันนุ่มนวลแต่หนักแน่น
“การช่วยชีวิตแม้แต่สัตว์ตัวเล็ก ๆ หรือแมลงตัวเดียว ย่อมเป็นสิ่งควรอนุโมทนา” ท่านพระอาจารย์กาซันกล่าวต่อ
เหล่าศิษย์ต่างพยักหน้าช้า ๆ บางคนยิ้มด้วยความอิ่มใจ รู้สึกว่าคำสอนวันนี้ช่างบริสุทธิ์และสูงส่ง
แต่แล้ว พระอาจารย์กาซันเว้นจังหวะนานขึ้น ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไปด้วยเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “แต่พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ยังมีการฆ่าอีกหลายรูปแบบ ที่ผู้คนมองไม่เห็น…”
เหล่าศิษย์ชะงักไปทันที บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบงัน
พระอาจารย์กาซันสบตาศิษย์แต่ละคนทีละคนอย่างช้า ๆ “คนที่ฆ่าเวลาโดยเปล่าประโยชน์… คนที่ทำลายทรัพย์สินโดยไม่รู้คุณค่า… คนที่ทำลายระบบเศรษฐกิจโดยความประมาท… พวกเขาก็ฆ่าเช่นกัน”
ศิษย์บางคนเริ่มขมวดคิ้ว ความรู้สึกชื่นชมเมื่อครู่ กลับกลายเป็นความอึดอัด
แต่พระอาจารย์กาซันยังไม่หยุด “และที่ร้ายแรงที่สุด… คือผู้ที่สั่งสอนธรรมะโดยที่ตนยังไม่รู้แจ้ง… เขากำลังฆ่าพุทธศาสนา”
คำพูดสุดท้ายหล่นลงกลางลานอย่างแผ่วเบา แต่สะเทือนลึกไปถึงใจของทุกคน
ไม่มีใครกล้าพูด ไม่มีใครยิ้ม ในความเงียบ… เสียงของความจริง กลับดังกว่าเสียงธรรมใด ๆ

ศิษย์คนหนึ่งค่อย ๆ ยกมือขึ้น พนมก่อนจะถามด้วยเสียงเบา “แต่…ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าตั้งใจดี ข้าสอนธรรมะตามที่จำมา มิใช่ด้วยเจตนาร้าย เช่นนั้นถือว่าฆ่าด้วยหรือ?”
พระอาจารย์กาซันพยักหน้าเบา ๆ แล้วตอบโดยไม่ลังเล “ดอกไม้ที่ยังไม่บาน จะให้กลิ่นหอมได้อย่างไร? เปลวไฟที่ยังไม่ติด จะจุดตะเกียงได้หรือไม่?”
ท่านลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ สายตาจับจ้องไปยังแนวป่าด้านหลังวัด
“เจตนาดี มิได้แปลว่าไม่ก่ออันตราย”
“ความไม่รู้… เมื่อพูดออกไปด้วยความมั่นใจ กลับเป็นดาบคมที่คนถือเองยังไม่เห็นคม”
บรรยากาศรอบลานสงบ เหมือนทุกต้นไม้กำลังฟัง
พระอาจารย์กาซันเดินช้า ๆ ไปยังศาลาหลังเก่า ท่านหยิบก้อนหินเล็ก ๆ ขึ้นมาวางไว้กลางลาน
“หินนี้ไม่เคยฆ่าใคร” ท่านวางมือบนก้อนหินนั้น
“แต่มือที่โยนมัน… ฆ่าได้โดยไม่ต้องมีดาบ”
ท่านหันกลับมามองเหล่าศิษย์ “อย่าฆ่าด้วยคำที่ดูเหมือนธรรม อย่าทำลายด้วยการสอนที่ตนยังไม่เข้าใจ และอย่าปล่อยให้ความดีเพียงครึ่งเดียว กลายเป็นเงาที่บดบังแสงของพุทธะ”
ศิษย์ทุกคนก้มศีรษะ ไม่มีใครกล่าวคำใด แต่ในใจของแต่ละคน คำว่า “ฆ่า” ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การฆ่า ไม่ได้มีเพียงการพรากชีวิตด้วยอาวุธ แต่รวมถึงการทำลายด้วยความไม่รู้ ความประมาท และความหลงผิดที่แฝงมาในรูปของเจตนาดี หากเราใช้คำสอนที่ยังไม่เข้าถึง อาจกลายเป็นการทำลายมากกว่าการชี้ทาง และการนิ่งเฉยต่อการกระทำที่กัดกินคุณค่าของชีวิตและสังคม ก็ล้วนเป็นการ “ฆ่า” อย่างเงียบงันเช่นกัน
พระอาจารย์กาซันไม่ได้ประณามการฆ่าสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่ชี้ให้เห็น “การฆ่าที่ไม่มีเลือด” การฆ่าความหมายของเวลา ความมั่นคงของเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ความศรัทธาในธรรมะ ด้วยความไม่รู้ตัว การระลึกได้ว่าเรากำลังฆ่าโดยไม่ตั้งใจ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตที่แท้จริง
อ่านต่อ: ค้นหาปรัชญาแห่งความสงบการปล่อยวางของชีวิตผ่านนิทานเซนหลากหลายเรื่องทั้งสนุก และได้ข้อคิดดี ๆ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องการฆ่า (อังกฤษ: Killing) มาจากหนังสือรวมเรื่องเล่าเซนชื่อดัง Zen Flesh, Zen Bones ที่รวบรวมโดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki ในนั้นมีหมวดชื่อว่า “101 Zen Stories” ซึ่งเล่าเรื่องจริงของพระเซนในประวัติศาสตร์
โดยตัวละครหลักในเรื่องคือพระอาจารย์กาซัน โจเซกิ (Gasan Jōseki) ซึ่งเป็นพระเซนมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สมัยยุคคามาคุระ เป็นศิษย์ของพระเทคิซุย และภายหลังกลายเป็นอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเรื่องการสอนที่ตรง กระทบใจ และไม่ยึดติดกับรูปแบบใด ๆ
เรื่องนี้มักถูกยกมาใช้ในการสอนเซน เพื่อชี้ให้เห็นว่าการยึดติดอยู่กับรูปธรรมของคำว่า “ฆ่า” หรือ “ดี” อาจบดบังการมองเห็นความจริงที่ลึกกว่านั้น และคนที่มีเจตนาดี… หากยังไม่รู้แจ้ง ก็อาจเผลอทำลายสิ่งที่ควรค่าโดยไม่รู้ตัว
เป็นหนึ่งในนิทานเซนที่เน้นการกลับมามองภายในอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่อิงกรอบนิยามที่ตื้นเกินไปครับ
คติธรรม: “การฆ่าที่น่ากลัวที่สุด ไม่ได้ใช้มีดหรืออาวุธ แต่เกิดจากคำพูดของผู้ที่ยังไม่รู้แจ้ง… เมื่อธรรมะถูกสอนโดยจิตที่ยังไม่ถึงธรรม มันไม่เพียงไร้ประโยชน์ แต่กลับเป็นการทำลายรากแห่งศรัทธาโดยที่คนพูดไม่รู้ตัว การฆ่าด้วยความไม่รู้จึงเงียบงันที่สุด แต่แหลมคมและร้ายแรงที่สุดในโลก”