ในเส้นทางแห่งการเรียนรู้ วิถีเซนมิใช่เพียงการรับฟังคำสอน แต่คือการเผชิญหน้ากับทุกการกระทำของอาจารย์ ด้วยใจที่เปิดกว้างและใส่ใจในสิ่งที่มิได้พูดออกมาโดยตรง บางที “การตี” ที่ดูเหมือนโกรธเคือง อาจแฝงไว้ด้วยเมตตาอย่างที่สุด
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่ง เล่าถึงศิษย์หนุ่มที่กำลังจะออกเดินทางแสวงธรรม และการลาจากที่ไม่ใช่แค่คำอำลา แต่คือ “บทเรียนสุดท้าย” จากครูผู้ไม่อาจเอ่ยคำได้ดีกว่านั้นอีกแล้ว… กับนิทานเซนเรื่องการฟาดครั้งสุดท้าย

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องการฟาดครั้งสุดท้าย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ วัดเซนอันสงบเงียบกลางหุบเขา มีศิษย์หนุ่มชื่อ ทันเก็น เติบโตขึ้นภายใต้การดูแลของอาจารย์ เซนไก มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ตลอดหลายปี เขาเฝ้าศึกษาธรรมะ ฝึกฝนวิถีเซนอย่างมุ่งมั่น ไม่เคยห่างจากครูผู้เปรียบเสมือนบิดาทางจิตวิญญาณ
เมื่อทันเก็นอายุครบยี่สิบ เขาเริ่มรู้สึกว่า ถึงเวลาต้องออกเดินทางไปศึกษาจากครูเซนรูปอื่น เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ และเปรียบเทียบแนวทางปฏิบัติ “ข้ารู้สึกว่า หากได้เรียนรู้จากอาจารย์รูปอื่นบ้าง อาจทำให้เข้าใจธรรมได้ลึกซึ้งขึ้น” เขากล่าวกับเซนไก
แต่อาจารย์กลับตอบโดยไม่พูดคำใด เพียงหยิบไม้เรียวขึ้นมา “เพี๊ยะ!” แล้วตีลงบนศีรษะของเขาเบา ๆ อย่างไร้คำอธิบาย
ทุกครั้งที่ทันเก็นเอ่ยปากขออนุญาตออกเดินทาง เขาจะได้รับการตอบรับเช่นนั้นเสมอ การฟาดศีรษะอย่างเงียบ ๆ ไม่มีคำห้าม ไม่มีคำอนุญาต มีเพียงความนิ่งลึกของอาจารย์และเสียงเพี๊ยะสั้น ๆ เป็นคำตอบ
“หรืออาจารย์ไม่เห็นด้วย?” ทันเก็นคิดในใจ “หรือข้ายังไม่พร้อม?”
เวลาผ่านไปไม่น้อย ความตั้งใจของทันเก็นไม่ลดลง เขาตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากศิษย์พี่ใหญ่ ซึ่งสนิทกับเซนไกและมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง “พี่ช่วยพูดกับอาจารย์ให้ข้าทีเถิด ข้าต้องการออกเดินทางจริง ๆ”
ศิษย์พี่จึงเข้าไปหาเซนไกอย่างเคารพ และไม่ช้าก็กลับออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ข้าได้จัดการให้แล้ว ทันเก็น เจ้าสามารถเริ่มการจาริกได้เลยในวันพรุ่งนี้”
ทันเก็นดีใจมาก เขารีบตรงไปหาอาจารย์เพื่อขอบคุณทันที
แต่ทันทีที่ก้มลงกราบ เซนไกกลับ… “เพี๊ยะ!” ฟาดลงบนศีรษะของเขาอีกครั้ง

ทันเก็นนั่งนิ่งงัน มือยังกุมหัวด้วยความงุนงง “นี่อาจารย์เปลี่ยนใจอีกแล้วหรือ? เมื่อกี้ศิษย์พี่เพิ่งบอกว่าได้รับอนุญาตแท้ ๆ ทำไมถึงยังตีข้าอีก?”
เขารีบไปหา ศิษย์พี่ใหญ่ เพื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
“ข้าไปขอบคุณอาจารย์ แต่กลับโดนตีอีกครั้ง! นี่หมายความว่าอย่างไร? ท่านเปลี่ยนใจแล้วหรือ?”
ศิษย์พี่ขมวดคิ้วทันที “อะไรกันนี่? ท่านเซนไกไม่มีสิทธิ์ให้แล้วถอนคำพูดเช่นนี้ ข้าจะไปพูดกับท่านให้รู้เรื่องเอง”
ด้วยความไม่พอใจ ศิษย์พี่จึงรีบเข้าไปพบท่านเซนไก และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อาจารย์ ข้าคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ถูก ท่านให้คำอนุญาตแล้ว เหตุใดจึงกลับมาตีเขาอีก?”
เซนไกหันมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่มั่นคงว่า… “ข้าไม่ได้ถอนคำอนุญาต ที่ข้าทำ ก็เพื่อฟาดเขาเป็นครั้งสุดท้าย”
เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “เมื่อเขากลับมาอีกครั้ง เขาจะรู้แจ้งแล้ว และในตอนนั้น ข้าจะไม่สามารถฟาดเขาได้อีก”
คำตอบนั้นทำให้ศิษย์พี่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ พยักหน้าช้า ๆ
ขณะเดียวกัน ทันเก็นซึ่งเฝ้ารออยู่ภายนอก ยังคงกุมศีรษะด้วยสีหน้างุนงง แต่ลึก ๆ ในใจกลับเริ่มเกิดความเคารพในความเงียบของอาจารย์ที่แฝงไว้ด้วยเมตตาอันลึกซึ้ง
เสียงฟาดนั้น… อาจไม่ใช่การห้าม หรือการตำหนิ หากแต่เป็นการอำลาครั้งสุดท้าย เต็มไปด้วยความหวังว่าศิษย์จะกลับมาอีกครั้ง พร้อมดวงตาใหม่ที่เห็นแจ้งในธรรม

นืทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นืทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การจากลาของครูบาอาจารย์อาจไม่ได้มาพร้อมคำพูดหวาน หรือคำอวยพรอันหรูหรา แต่อาจอยู่ในรูปของการเตือนสุดท้ายที่เจ็บแต่ลึกซึ้ง และเป็นบทเรียนที่ฝังแน่นยิ่งกว่าใด ๆ
ท่านอาจารย์เซนไกมิได้ขัดขวางการเดินทางของทันเก็น หากแต่รู้ว่าศิษย์ผู้นี้กำลังจะออกเดินสู่เส้นทางแห่งการรู้แจ้ง เมื่อถึงวันกลับมา ศิษย์จะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เขาจะตื่นรู้เกินกว่าที่อาจารย์จะ “ตักเตือน” ได้อีก
การ “ฟาดครั้งสุดท้าย” จึงเปรียบเสมือนการอำลาอย่างเงียบงาม เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาที่ไม่ได้หวังให้ศิษย์จดจำเพียงความเจ็บปวด แต่ให้จดจำ “ความผูกพัน” ระหว่างครูและลูกศิษย์ก่อนก้าวข้ามผ่านสู่ธรรม
อ่านต่อ: เรื่องเล่าเรียบง่ายในแบบเซนอาจให้คำตอบที่ธรรมะยังไม่ได้บอก กับนิทานเซนสั้น ๆ สนุก ๆ แถมได้ข้อคิดดี ๆ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องการฟาดครั้งสุดท้าย (อังกฤษ: The Last Rap) เรื่องราวนี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้นทางธรรมะชื่อ Zen Flesh, Zen Bones ซึ่งรวบรวมโดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki หนึ่งในนักเผยแผ่พระพุทธศาสนาเซนในสหรัฐอเมริกา หนังสือเล่มนี้มีจุดประสงค์ในการนำเสนอแก่นแท้ของคำสอนในรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก
ตัวละครสำคัญในเรื่องคือท่านอาจารย์เซนไก (Sengai Gibon) พระภิกษุเซนสายสกุลรินไซ (Rinzai Zen) ที่มีชื่อเสียงในยุคเอโดะของญี่ปุ่น ท่านเป็นที่รู้จักจากสไตล์การสอนที่ลึกซึ้งแต่แฝงอารมณ์ขัน โดยใช้วิธีการตอบโต้ที่เรียบง่าย เช่น การตี การพูดน้อย หรือการวาดภาพธรรมะ เพื่อชี้ตรงไปยังสภาวะของจิตเดิมแท้
นิทานเรื่องนี้บันทึกเรื่องราวของความผูกพันระหว่างท่านเซนไกกับศิษย์คนหนึ่งชื่อว่าทันเก็น (Tangen) ที่เติบโตภายใต้การอบรมของอาจารย์มาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อถึงเวลาที่ศิษย์ปรารถนาจะออกไปแสวงหาประสบการณ์เพิ่มเติมกับอาจารย์อื่น ๆ ท่านเซนไกกลับปฏิเสธโดยไม่พูดมาก เพียงใช้ “การฟาดหัว” เป็นคำตอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งในที่สุด เมื่อยินยอมให้ไป ก็ยังคงฟาดอีกครั้ง พร้อมอธิบายว่า… นี่คือการตีครั้งสุดท้าย ก่อนศิษย์จะกลับมา “รู้แจ้ง” จนเกินกว่าการตักเตือนใด ๆ
เรื่องนี้ได้รับการบอกเล่าและตีความอย่างกว้างขวางในวงการผู้ศึกษาพุทธศาสนาเซน เนื่องจากเป็นหนึ่งในเรื่องที่สะท้อนรูปแบบการถ่ายทอดธรรมแบบไร้ถ้อยคำของครูเซน ที่ผสมทั้งวินัย ความรัก และอารมณ์ขันอย่างกลมกลืน
คติธรรม: “บางครั้งคำสอนที่ลึกที่สุด ไม่ได้มาในรูปของถ้อยคำ แต่แฝงอยู่ในการกระทำอันเรียบง่าย ที่มีแต่ผู้มีใจเปิดจึงจะเข้าใจ”