ในยามที่สถานการณ์ดูไม่เข้าข้าง หลายคนอาจหันไปพึ่งโชคชะตา หรือภาวนาให้ฟ้ามีคำตอบให้พวกเขา แต่ในเส้นทางของเซน คำตอบบางครั้งไม่ได้มาจากเบื้องบน หากมาจากใจที่มั่นคงของผู้นำเบื้องหน้า
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่ง เล่าถึงเจ้านครผู้ยิ่งใหญ่ ที่หยิบเหรียญขึ้นกลางศึก ไม่ใช่เพื่อรู้ผลจากสวรรค์… แต่เพื่อปลุกไฟในหัวใจของผู้คนให้กลายเป็นพลังที่ไม่มีใครต้านทานได้ กับนิทานเซนเรื่องในเงื้อมมือของพรหมลิขิต

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องในเงื้อมมือของพรหมลิขิต
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ปลายยุคเซ็นโกกุของญี่ปุ่น มีเจ้านครผู้หนึ่งชื่อว่าโอดะ โนบุนากะ เขาเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ มีสติปัญญาและกล้าหาญ เป็นผู้นำที่ผู้คนทั้งยำเกรงและนับถือ
วันหนึ่ง เขาตัดสินใจนำกองทัพเข้าสู่ศึกใหญ่ แม้จะรู้ว่าศัตรูมีทหารมากกว่าเขาถึงสิบเท่า
แต่โนบุนากะไม่ลังเล เพราะเขาเชื่อในกลยุทธ์ของตนเอง ที่สำคัญกว่านั้นเขาเชื่อในพลังใจของทหาร
แต่ทว่า…คนของเขาหลายคนเริ่มสั่นคลอน
“หากนับจำนวนคน เราเสียเปรียบเกินไป”
“เราจะมีโอกาสชนะจริงหรือ?”
เสียงกระซิบเหล่านี้กระจายไปทั่วกองทัพ
โนบุนากะไม่พูดมาก เขานำทัพหยุดที่ศาลเจ้าชินโตเล็ก ๆ ก่อนถึงสนามรบ จากนั้นกล่าวกับทหารทุกคนว่า “ข้าจะเข้าไปอธิษฐาน แล้วโยนเหรียญหนึ่งเหรียญขึ้นฟ้า”
“ถ้าออกหัว แสดงว่าเทพเจ้ามอบชัยชนะให้เรา แต่ถ้าออกก้อย… เราจงเตรียมใจรับชะตากรรม”
“พรหมลิขิตจะตัดสินทุกสิ่งในบัดนี้” โนบุนากะกล่าวด้วยความเข้มแข็ง

ในสนามรบ กองทัพของโนบุนากะเคลื่อนไหวรวดเร็ว ราวกับรู้ล่วงหน้าทุกจุดที่ศัตรูจะบุก ไม่มีใครลังเล ไม่มีใครถอย
เสียงตะโกน “เราจะชนะ!” ดังก้องไปทั่วทุ่ง
แม้จะมีกำลังน้อยกว่า แต่พวกเขาต่อสู้อย่างมีเป้าหมาย มีแรงใจ และมีศรัทธา ไม่ใช่ศรัทธาในเทพเจ้าเพียงอย่างเดียว… แต่คือศรัทธาในผู้นำของตน ศรัทธาในความกล้าตัดสินใจ และศรัทธาในโชคชะตาที่พวกเขาเชื่อว่ากำลังเข้าข้าง
ศึกนั้นจบลงเร็วกว่าที่ใครคาด ศัตรูที่มีกำลังเหนือกว่าไม่อาจต้านทานความแน่วแน่ของทหารกลุ่มเล็ก ๆ ได้
หลังชัยชนะ เสียงโห่ร้องยินดีดังขึ้น มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ผู้ติดตามคนสนิทของโนบุนากะเดินเข้ามา แล้วพูดเบา ๆ ด้วยความศรัทธา
“ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมือของพรหมลิขิตได้เลย…”
โนบุนากะยิ้มบาง ๆ เขาคลายมือช้า ๆ แล้วหยิบเหรียญออกมาให้ดูอีกครั้ง
มันเป็นเหรียญกลมธรรมดา… แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผิดจากเหรียญทั่วไป
ไม่ว่ามองด้านใด มันก็เป็น “หัว” ทั้งสองด้าน
“โชคชะตายิ่งใหญ่นัก…หากเรามีใจเชื่อมั่นพอที่จะวางมันไว้ในมือเราเอง” เขากล่าวด้วยเสียงแผ่ว
ไม่ใช่การโกง ไม่ใช่การหลอก แต่คือการรู้ว่า บางครั้ง เหรียญของพรหมลิขิต… อยู่ในมือของผู้นำที่กล้าใช้ความเชื่อ เปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นพลัง
และในวันนั้น เหรียญเพียงเหรียญเดียว ได้นำกองทัพเล็ก ๆ สู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ชัยชนะไม่ได้อยู่ที่จำนวนคนหรือโชคชะตา แต่อยู่ที่ความกล้าและความมั่นใจของผู้ที่จะเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นพลัง เมื่อผู้นำกล้าแสดงความแน่วแน่ ไม่หวั่นไหวแม้ในยามที่ดูเหมือนสิ้นหวัง หัวใจของผู้ตามก็จะกลายเป็นดั่งเหล็กกล้า พร้อมเผชิญทุกศึก
โอดะ โนบุนากะไม่ได้อาศัยเหรียญเพื่อรู้ผลจากฟ้า แต่ใช้มันเป็นเครื่องมือจุดไฟศรัทธาในใจทหาร เพราะบางครั้ง พรหมลิขิตไม่ได้อยู่ในมือของฟ้า… แต่อยู่ในมือของผู้ที่รู้จักสร้างมันขึ้นมาด้วยสติและเจตนา
อ่านต่อ: นิทานเซนสั้น ๆ สนุก ๆ เข้าถึงปรัชญาชีวิตความสงบ การปล่อยวาง
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องในเงื้อมมือของพรหมลิขิต (อังกฤษ: In the Hands of Destiny) มาจากหนังสือ “Zen Flesh, Zen Bones” ซึ่งเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าและคำสอนเซนโดย Paul Reps และ Nyogen Senzaki ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957
ต้นเรื่องเล่าถึงบุคคลในประวัติศาสตร์จริงคือโอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga) มหาไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเซ็นโกกุของญี่ปุ่น โดยใช้เหตุการณ์สมมุติเพื่อสะท้อนหลักการของเซนว่า “ความจริง” อาจอยู่ไม่ใช่ที่สิ่งภายนอก แต่ที่เจตนาและภาวะจิตใจในขณะนั้น
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิทานเซนที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยพรหมลิขิต ความศรัทธา และไหวพริบทางจิตใจ ผ่านสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ผู้นำที่ต้องตัดสินใจในศึกใหญ่ ทั้งที่มีกำลังน้อยกว่าหลายเท่า แต่กลับใช้เพียงเหรียญหนึ่งเหรียญปลุกพลังใจของทั้งกองทัพ
เรื่องราวนี้จึงถือเป็นหนึ่งในนิทานเซนที่มีพลังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะชี้ให้เห็นว่า ในบางครั้ง “เครื่องมือ” ที่ดูธรรมดา เช่นเหรียญ หรือคำพูดเพียงไม่กี่คำ หากอยู่ในมือของผู้นำที่เข้าใจธรรมชาติของจิตใจคน ก็สามารถเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นศรัทธา และเปลี่ยนศรัทธาให้กลายเป็นชัยชนะได้
คติธรรม: “จงอย่ารอให้โชคชะตาตัดสิน ถ้าคุณกล้าพอที่จะสร้างมันขึ้นเอง”