ปกนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข

นิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข

ในชีวิตประจำวัน ความรู้สึกแท้จริงบางครั้งถูกบดบังด้วยการแสดงออกที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า การแสดงออกมักมีเจตนาที่ต้องการให้คนอื่นเห็นตามที่เราต้องการ แต่ความสุขและความเศร้าที่แท้จริงนั้นต้องมาจากใจบริสุทธิ์

มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับบังเคอิ อาจารย์เซนผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งแสดงความสุขและความเศร้าอย่างตรงไปตรงมา ชายตาบอดคนหนึ่งที่ได้ฟังเสียงของท่าน พบว่าเสียงของท่านสะท้อนอะไรบางอย่างอย่างแท้จริง กับนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว หลังจากที่อาจารย์บังเคอิ (Bankei) อาจารย์เซนผู้ยิ่งใหญ่ได้จากไป ชายตาบอดคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้กับวัดของบังเคอิ เล่าให้เพื่อนของเขาฟังว่า “เนื่องจากข้าตาบอด ข้าจึงไม่สามารถมองใบหน้าของใครได้ ดังนั้นข้าต้องตัดสินใจเกี่ยวกับลักษณะของบุคคลจากเสียงของเขา”

ชายตาบอดเล่าต่อว่า เขาเคยสังเกตเห็นว่า เมื่อมีคนแสดงความยินดีในความสุขหรือความสำเร็จของคนอื่น มักจะมีเสียงแฝงที่ขัดแย้งกันบางอย่างในเสียงของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขารู้สึกอิจฉาในความสุขของผู้อื่น

แต่เมื่อใครสักคนแสดงความเสียใจเกี่ยวกับความโชคร้ายของคนอื่น เขากลับได้ยินเสียงที่แฝงความพึงพอใจบางอย่างเหมือนกับว่าคนที่แสดงความเสียใจนั้นยินดีในความโชคร้ายที่เกิดขึ้น เพราะมีอะไรบางอย่างที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากความลำบากของผู้อื่น

ชายตาบอดเล่าต่อไปว่า “ในประสบการณ์ของข้า ข้าเคยได้ยินเสียงแฝงของความไม่จริงใจในเสียงของคนอื่น ๆ แต่เสียงของอาจารย์บังเคอิแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง”

เขากล่าวว่า “ทุกครั้งที่อาจารย์บังเคอิแสดงความสุข ข้าจะได้ยินแต่ความสุขจริง ๆ เสียงของท่านไม่ได้มีสิ่งแอบแฝง ไม่มีความอิจฉาหรือความปรารถนาใด ๆ อยู่ในนั้น เมื่อท่านแสดงความสุข ท่านพูดไปจากใจจริง ทุกคำที่ท่านพูดสะท้อนถึงความยินดีที่แท้จริง”

และทุกครั้งที่บังเคอิแสดงความเสียใจ “ข้าก็จะได้ยินแต่ความเศร้าจริง ๆ เสียงของท่านไม่มีความสุขแอบแฝงในความเศร้าของท่าน ความเสียใจของท่านคือความเสียใจอย่างแท้จริง”

เสียงของบังเคอิไม่เคยมีอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่ “ข้ารู้สึกว่าเสียงของท่านเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความจริงใจในทุกคำพูดที่ออกจากปากท่าน”

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข 2

ชายตาบอดยังคงเล่าต่อว่า เขาเคยได้ยินเสียงของคนอื่นที่แสดงออกถึงความสุขหรือความเสียใจ แต่เสียงเหล่านั้นมักจะมีความรู้สึกแอบแฝงอยู่ในนั้น ราวกับว่าเสียงนั้นไม่ได้สะท้อนถึงความรู้สึกที่แท้จริง แต่เป็นแค่การแสดงออกที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา

เขาบอกว่า “เสียงของคนอื่นมักมีความรู้สึกแอบแฝงอยู่ในนั้น บางครั้งความสุขที่พวกเขาพูดออกมาก็แฝงไปด้วยความอิจฉา หรือบางครั้งความเสียใจก็แฝงไปด้วยความพึงพอใจในความโชคร้ายของผู้อื่น แต่เสียงของบังเคอิไม่เคยเป็นเช่นนั้นเลย ทุกครั้งที่ท่านแสดงความสุข ความสุขนั้นก็แท้จริง และทุกครั้งที่ท่านแสดงความเสียใจ ก็สะท้อนความเศร้าที่แท้จริง ไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนเร้นอยู่ในเสียงของท่าน”

ชายตาบอดเริ่มตระหนักว่า เสียงที่แท้จริงไม่ได้ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ที่ซ่อนเร้น แต่เป็นเสียงที่มาจากความบริสุทธิ์และความจริงใจที่ลึกซึ้ง

ชายตาบอดได้เรียนรู้จากการฟังเสียงของอาจารย์บังเคอิว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การแสดงออกเพื่อให้คนอื่นเห็น หรือการแสดงความยินดีด้วยเหตุผลที่แอบแฝงอะไรไว้ แต่คือการรู้สึกถึงความสุขในตัวเองจากภายในโดยไม่มีสิ่งใดคาดหวัง

เสียงของอาจารย์บังเคอิทำให้ชายตาบอดเข้าใจว่า “ความสุขที่แท้จริงคือการแสดงออกถึงความรู้สึกจากใจจริง ไม่มีการปรุงแต่ง ไม่มีความปรารถนาแอบแฝง เมื่อท่านแสดงความสุข ท่านแสดงมันด้วยความบริสุทธิ์ และเมื่อท่านแสดงความเสียใจ มันก็เป็นความเสียใจที่มาจากความจริงใจ”

ชายตาบอดรู้สึกขอบคุณอาจารย์บังเคอิที่ทำให้เขาเข้าใจในสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาเอง ความสุขที่แท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องแอบแฝงหรือคาดหวังสิ่งใดจากผู้อื่น เพียงแค่แสดงออกไปจากใจจริง ก็เพียงพอแล้ว

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ความสุขที่แท้จริงเกิดจากความบริสุทธิ์ในใจและการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปรุงแต่งหรือแอบแฝง การแสดงความรู้สึกที่แท้จริงคือการเปิดเผยความสุขและความเศร้าโดยไม่มีเงื่อนไขหรือความคาดหวังจากผู้อื่น

ชายตาบอดได้เรียนรู้จากเสียงของบังเคอิว่า การแสดงออกของเราเมื่อมีความสุขหรือความเศร้า ควรเป็นสิ่งที่มาจากความจริงใจและไม่ต้องมีสิ่งใดซ่อนเร้นหรือปรุงแต่ง

อ่านต่อ: อ่านนิทานสั้น ๆ ที่แฝงข้อคิดดี ๆ เกี่ยวกับชีวิตได้ที่นิทานเซน

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องเสียงแห่งความสุข (อังกฤษ: The Voice of Happiness) นิทานเรื่องนี้ถูกเล่าโดยชายตาบอดคนหนึ่งที่เคยได้ยินเสียงของบังเคอิ (Bankei) อาจารย์เซนผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีชื่อเสียงในการสอนเซนที่เน้นการเข้าถึงธรรมะผ่านการปฏิบัติจริงและความบริสุทธิ์ในตัวเอง บังเคอิสอนให้ผู้คนเข้าใจการมองโลกและความรู้สึกต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่หลบซ่อนหรือปรุงแต่งอะไรในสิ่งที่เป็นธรรมชาติของตัวเอง

อาจารย์บังเคอิเป็นที่รู้จักในวงการเซนว่าเป็นผู้ที่มีความจริงใจอย่างยิ่ง แม้จะมีความสุขหรือเศร้า ท่านก็จะแสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมาและบริสุทธิ์ สิ่งนี้สะท้อนออกมาผ่านเสียงของท่าน ซึ่งไม่มีความอิจฉาหรือการปรุงแต่งใด ๆ ในการแสดงออกของท่าน

นิทานนี้เริ่มต้นจากการที่ชายตาบอดที่อาศัยใกล้กับวัดของบังเคอิได้สังเกตและรับฟังเสียงของท่านอาจารย์ และเมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้ว ชายตาบอดได้เล่าประสบการณ์ของเขาว่าเสียงของบังเคอิเป็นเสียงที่บริสุทธิ์และสะท้อนความจริงใจอย่างแท้จริง ไม่เหมือนเสียงของคนอื่นที่อาจแฝงความรู้สึกแอบแฝงหรือไม่จริงใจ

นิทานนี้สอนให้เราเข้าใจว่า ความสุขและความเศร้าที่แท้จริงไม่ควรถูกปรุงแต่งหรือซ่อนเร้น ควรเป็นสิ่งที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาและจากใจจริง

คติธรรม: “ความสุขและความเศร้าที่แท้จริงเกิดจากความบริสุทธิ์ของจิตใจ การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาและจากใจจริงคือการเข้าถึงความจริงในตัวเอง”


by