ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย การฝึกฝนเพื่อความสงบภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เพียงการหลีกหนีจากภายนอก แต่คือการเข้าใจและมีสติในทุกการกระทำ
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งสะท้อนถึงการปฏิบัติตัวตามหลักการเซนของโซเย็น ชาคุ อาจารย์เซนท่านแรกที่นำเซนเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ท่านสอนให้เราเข้าใจว่า ความสงบที่แท้จริงเกิดจากการมีสติในทุกขณะของชีวิต กับนิทานเซนเรื่องหัวใจข้าพเจ้าร้อนดั่งไฟ

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องหัวใจข้าพเจ้าร้อนดั่งไฟ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวัดเซนแห่งหนึ่งที่เงียบสงบ ท่ามกลางภูเขาและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความงามอันเงียบสงบ มีอาจารย์เซนผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงในการฝึกฝนและการเผยแพร่หลักธรรมะ
ท่านคือโซเย็น ชาคุ (Soyen Shaku) เป็นอาจารย์เซนท่านแรกที่นำเซนมาเผยแพร่ในอเมริกา ท่านได้พูดคำหนึ่งที่กลายเป็นที่รู้จักในวงการเซนว่า “หัวใจข้าพเจ้าร้อนดั่งไฟ แต่ดวงตาข้าพเจ้ากลับเย็นชาดั่งขี้เถ้าที่ตายแล้ว”
ท่านหมายถึงการที่ท่านมีความร้อนแรงในใจในการฝึกฝนและการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ท่านสามารถรักษาความสงบภายในและไม่ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อการกระทำหรือท่าทางภายนอก
ท่านได้ตั้งกฎหลายข้อที่ท่านปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติที่สมดุลและลึกซึ้ง ท่านเริ่มต้นทุกวันด้วยการจุดธูปและนั่งสมาธิ ก่อนที่จะสวมเสื้อผ้า เพราะท่านเชื่อว่าการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำสมาธิช่วยให้จิตใจของท่านสงบและพร้อมรับสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น
โซเย็น ชาคุได้ตั้งกฎสำหรับการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การรับประทานอาหาร การนอนหลับ ไปจนถึงการปฏิบัติตัวกับผู้อื่น
ท่านมีระเบียบในการนอนหลับทุกคืนในเวลาเดียวกัน และรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่กำหนด ท่านกินเพียงพอ ไม่มากเกินไป และไม่ให้ท่านอิ่มจนเกินไป เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและจิตใจ
ท่านรับแขกด้วยท่าทางเดียวกับที่ท่านปฏิบัติตัวในเวลาที่ท่านอยู่เพียงลำพัง เมื่ออยู่กับคนอื่น ท่านไม่แสดงท่าทีที่แตกต่างจากเวลาที่ท่านอยู่คนเดียว ท่านฝึกฝนที่จะเป็นตัวของตัวเองในทุกสถานการณ์ ด้วยความเคารพและสมดุล
ท่านยังย้ำถึงความสำคัญของคำพูดและการกระทำ ท่านกล่าวว่า “จงระมัดระวังในสิ่งที่ท่านพูด และเมื่อพูดแล้วจงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านได้กล่าวไว้” ท่านเชื่อว่าการปฏิบัติตามคำพูดนั้นช่วยให้เราเติบโตและรักษาความซื่อสัตย์ภายในจิตใจของตนเอง

โซเย็น ชาคุมีหลักการที่ท่านยึดถือในชีวิตประจำวันอย่างเคร่งครัด และท่านได้สอนลูกศิษย์ของท่านในเรื่องของการมีสติและความรักในทุกการกระทำ ท่านเชื่อว่า การมีทัศนคติที่เหมือนกันทั้งในเวลาที่อยู่คนเดียวและเวลาที่รับแขก คือการรักษาความสมดุลในจิตใจ
ท่านสอนให้ทุกคนมีทัศนคติที่เปิดกว้างและเป็นมิตรเมื่อพบเจอผู้อื่น แต่ก็ยังรักษาความสงบภายในและไม่ปล่อยให้การกระทำภายนอกมาบั่นทอนความสงบในใจของเรา ท่านพูดว่า “รับแขกด้วยท่าทางเดียวกับที่ท่านปฏิบัติตนเมื่ออยู่คนเดียว เพราะความสงบที่แท้จริงเริ่มต้นจากภายใน”
ท่านยังเน้นการฝึกการรับมือกับความท้าทายในชีวิตด้วยทัศนคติของความกล้าหาญ เช่นเดียวกับนักรบที่ไม่หวาดกลัว แต่ก็มีจิตใจที่รักและเห็นอกเห็นใจเหมือนเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา ท่านสอนว่า “จงมีใจที่กล้าหาญเหมือนนักรบ แต่ก็มีหัวใจที่รักและบริสุทธิ์เหมือนเด็ก”
โซเย็น ชาคุยังสอนให้ลูกศิษย์ของท่านนอนหลับเหมือนกับการนอนหลับครั้งสุดท้ายของชีวิต และเมื่อลืมตาขึ้นมาในตอนเช้า ให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับทิ้งรองเท้าเก่าที่ไม่จำเป็นแล้ว
ท่านกล่าวว่า “เมื่อท่านนอนหลับให้รู้สึกเหมือนท่านได้พักผ่อนครั้งสุดท้ายในชีวิต และเมื่อท่านตื่นขึ้นมาให้รู้สึกเหมือนท่านทิ้งสิ่งเก่าที่ไม่จำเป็นแล้วออกไป”
ท่านสอนให้ลูกศิษย์มีสติในทุกการกระทำ ตั้งแต่การกิน การนอน การทำสมาธิ หรือแม้แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ทุกการกระทำควรเต็มไปด้วยความใส่ใจและความตั้งใจ ไม่ใช่แค่การทำไปโดยอัตโนมัติ
ท่านย้ำเสมอว่า “การฝึกฝนไม่ใช่แค่การนั่งสมาธิ แต่คือการมีสติในทุกขณะ ไม่ว่าท่านจะทำอะไรก็ตาม”
ท่านกล่าวว่า “เมื่อท่านนอนหลับให้รู้สึกเหมือนท่านได้พักผ่อนครั้งสุดท้ายในชีวิต และเมื่อท่านตื่นขึ้นมาให้รู้สึกเหมือนท่านทิ้งสิ่งเก่าที่ไม่จำเป็นแล้วออกไป”
ท่านสอนให้ลูกศิษย์มีสติในทุกการกระทำ ตั้งแต่การกิน การนอน การทำสมาธิ หรือแม้แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน
ทุกการกระทำควรเต็มไปด้วยความใส่ใจและความตั้งใจ ไม่ใช่แค่การทำไปโดยอัตโนมัติ ท่านย้ำเสมอว่า “การฝึกฝนไม่ใช่แค่การนั่งสมาธิ แต่คือการมีสติในทุกขณะ ไม่ว่าท่านจะทำอะไรก็ตาม”
ท่านแสดงให้เห็นว่าแม้ในชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนจะธรรมดา สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนเซนได้อย่างเต็มที่ ถ้าเราเข้าใจและปฏิบัติด้วยสติในทุกการกระทำ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การฝึกฝนเซนไม่ใช่แค่การทำสมาธิ แต่คือการมีสติในทุกการกระทำของชีวิต การเข้าใจตัวเองและการรักษาความสงบภายในในทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การกระทำ หรือการเผชิญกับความท้าทายในชีวิต คือการฝึกฝนที่แท้จริง
โซเย็น ชาคุสอนให้เราเข้าใจว่า การฝึกฝนที่แท้จริงไม่ใช่แค่การแยกตัวออกจากโลกภายนอกหรือการรักษาความสงบในช่วงเวลาสงบ แต่คือการมีสติในทุกการกระทำของชีวิต การเข้าใจตัวเองในทุกสถานการณ์ และการรักษาทัศนคติที่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด เราจะพบความสงบภายในได้เมื่อเราอยู่กับปัจจุบันและรู้จักตัดสินใจด้วยสติในทุกขณะ
อ่านต่อ: เรียนรู้ความหมายความสงบการปล่อยวางและสมาธิผ่านนิทานเซนสนุก ๆ สั้น ๆ ได้ข้อคิดสอนใจดี ๆ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องหัวใจข้าพเจ้าร้อนดั่งไฟ (อังกฤษ: My Heart Burns Like Fire) เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโซเย็น ชาคุ (Soyen Shaku) ผู้เป็นอาจารย์เซนผู้มีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งในบุคคลที่นำลัทธิเซนเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ท่านเป็นอาจารย์เซนคนแรกที่ได้รับการยอมรับในอเมริกาและเป็นผู้ที่ช่วยเผยแพร่หลักการเซนให้กับโลกตะวันตก
คำพูดที่ท่านกล่าว “หัวใจข้าพเจ้าร้อนดั่งไฟ แต่ดวงตาข้าพเจ้ากลับเย็นชาดั่งขี้เถ้าที่ตายแล้ว” เป็นการสะท้อนถึงความรู้สึกที่ท่านมีต่อการฝึกฝนเซน ซึ่งมีความร้อนแรงในการฝึกฝนและการมีความมุ่งมั่น แต่ท่านสามารถรักษาความสงบและไม่ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นส่งผลต่อการกระทำหรือท่าทางภายนอก
หลักการที่ท่านตั้งขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น การมีสติในทุกการกระทำ การปฏิบัติด้วยความพอดี และการไม่ยึดติดกับอดีต ได้กลายเป็นแนวทางในการฝึกฝนสำหรับทั้งผู้ที่ฝึกเซนและผู้ที่ต้องการหาความสงบในชีวิตประจำวัน
คติธรรม: “การฝึกฝนเซนไม่ใช่แค่การทำสมาธิ แต่คือการมีสติในทุกการกระทำของชีวิต การเข้าใจและยอมรับตัวเองในทุกขณะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสงบที่แท้จริง”