ในวิถีเซน การตื่นรู้ไม่มาจากคำตอบที่ชัดเจน แต่เกิดจากการปล่อยวางคำถามและความคิดที่ยึดติด ชีวิตของจักรพรรดิและอาจารย์กูโดสะท้อนถึงการเรียนรู้จากการกระทำและประสบการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ด้วยการปล่อยวางคำตอบที่ตายตัว
มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งเล่าถึงการศึกษาธรรมะของจักรพรรดิภายใต้การสอนของอาจารย์ที่ทำให้จักรพรรดิได้รับการตื่นรู้จากคำถามและการกระทำของอาจารย์ กับนิทานเซนเรื่องอาจารย์กูโดกับจักรพรรดิ

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องอาจารย์กูโดกับจักรพรรดิ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเกียวโต ยุคอะซูจิ-โมโมยามะ ในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมที่สำคัญ มีจักรพรรดิองค์หนึ่งที่ทรงเป็นนักศึกษาธรรมะเซนและทรงแสวงหาความรู้ในพระพุทธศาสนา
จักรพรรดิโกโยเซ (Goyozei) ผู้ทรงเป็นนักศึกษาธรรมะเซน ได้ไปศึกษาภายใต้การสอนของอาจารย์กูโด (Gudo) ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการเซน วันหนึ่งจักรพรรดิทรงถามอาจารย์ว่า “ในเซน จิตใจนี้เองคือตัวพระพุทธเจ้า ถูกต้องไหม?”
อาจารย์กูโดเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าตอบว่าใช่ เจ้าจะคิดว่าเข้าใจ แต่ความเข้าใจนั้นยังไม่สมบูรณ์ ถ้าข้าพเจ้าตอบว่าไม่ใช่ ข้าก็จะขัดแย้งกับสิ่งที่เจ้าก็อาจเข้าใจได้ดี”
คำตอบของกูโดไม่ใช่คำยืนยันหรือปฏิเสธโดยตรง แต่เป็นการชี้ให้เห็นว่า การเข้าใจเซนไม่ได้มาจากคำตอบที่ชัดเจน แต่ต้องมาจากการทำความเข้าใจในประสบการณ์ตรงของแต่ละคน จักรพรรดิโกโยเซทรงพยายามคิดตามคำตอบของอาจารย์ แต่ก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด
วันหนึ่งจักรพรรดิโกโยเซทรงถามอาจารย์กูโดอีกครั้งว่า “เมื่อบุคคลที่ตื่นรู้ตายไป เขาจะไปที่ไหน?”
อาจารย์กูโดตอบสั้น ๆ ว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้”
จักรพรรดิทรงตรัสถามต่อว่า “ทำไมท่านถึงไม่รู้?”
กูโดตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “เพราะข้าพเจ้ายังไม่ตาย”
คำตอบนี้ทำให้จักรพรรดิมีความสงสัยและลังเลในการถามต่อไป เพราะคำตอบที่ได้รับดูเหมือนจะตรงไปตรงมาเกินไป แต่กูโดไม่รอให้จักรพรรดิได้ถามคำถามเพิ่มเติม ท่านทุบพื้นด้วยมือของท่าน เพื่อปลุกจักรพรรดิให้ตื่นขึ้นจากความสงสัยและความไม่เข้าใจ
ทันทีที่กูโดทุบพื้น จักรพรรดิได้เกิดความเข้าใจอย่างทันที การตื่นรู้ของจักรพรรดิได้เกิดขึ้นในขณะนั้น เมื่อเข้าใจว่า ความตื่นรู้ในเซนไม่ได้มาจากคำตอบที่ชัดเจน แต่คือการปล่อยวางและการตื่นรู้ในทุกขณะของชีวิต

หลังจากที่จักรพรรดิได้รับการตื่นรู้จากคำสอนของอาจารย์กูโด ท่านทรงเคารพในธรรมะเซนและในตัวกูโดมากยิ่งขึ้น ความเข้าใจในเซนของจักรพรรดิทำให้ท่านตระหนักว่า การปล่อยวางคำถามที่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผลนั้นสำคัญเพียงใด
ท่านจึงพิจารณาถามกูโดว่า “ท่านอาจารย์ ข้ารู้สึกว่าเข้าใจเซนในบางประการแล้ว แต่การปล่อยวางไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหมว่า ข้าจะทำอย่างไรต่อไป?”
กูโดตอบอย่างสงบว่า “การปล่อยวางไม่ได้มาจากคำตอบที่ท่านคาดหวัง แต่มาจากการกระทำที่ไม่ยึดติดกับคำตอบใด ๆ เมื่อท่านหยุดตั้งคำถามและปล่อยวางความคิดที่ไม่จำเป็น ท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ท่านค้นหาด้วยตัวเอง”
จักรพรรดิทรงพยักหน้าและทรงเห็นด้วยกับคำสอนของกูโด ท่านทรงให้เกียรติอาจารย์มากยิ่งขึ้นและอนุญาตให้กูโดสวมหมวกในพระราชวังในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับพระสงฆ์ท่านอื่น ๆ
เมื่ออายุของกูโดเข้าสู่ช่วงบั้นปลาย ท่านเริ่มหลับในระหว่างการบรรยายธรรม จักรพรรดิทรงสังเกตเห็นและทรงเคารพในความต้องการของอาจารย์
วันหนึ่งขณะที่กูโดกำลังบรรยาย ศิษย์หลายคนเริ่มเห็นว่าอาจารย์หลับไป จักรพรรดิทรงพูดกับศิษย์ว่า “ท่านอาจารย์กูโดอายุมากแล้ว ข้าจะไปในห้องอื่นเพื่อให้ท่านกูโดได้พักผ่อนตามที่ร่างกายต้องการ”
ศิษย์หลายคนต่างเงียบและเคารพการตัดสินใจของจักรพรรดิ ขณะที่กูโดยังคงหลับพักผ่อนอยู่
หลังจากนั้นจักรพรรดิทรงเสริมว่า “แม้จะเป็นอาจารย์ที่สอนเราด้วยความเข้มงวด แต่การให้ความเคารพและความรักในเวลาที่ท่านต้องการพักผ่อนก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่แท้จริง”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การตื่นรู้ในเซนไม่ใช่การเข้าใจด้วยคำตอบที่ชัดเจน แต่คือการปล่อยวางคำถามและความคิดที่ยึดติด และเปิดใจรับความจริงในแต่ละขณะ การเข้าใจเซนต้องมาจากการฝึกฝนอย่างลึกซึ้งและการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องหาคำตอบที่สมบูรณ์แบบเสมอไป
จักรพรรดิได้เรียนรู้จากกูโดว่า การตื่นรู้ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบที่ชัดเจนหรือสมบูรณ์แบบ แต่คือการปล่อยวางความคิดและการตั้งคำถามที่ไม่จำเป็น เพื่อให้จิตใจสงบและตื่นรู้ในปัจจุบันขณะ เช่นเดียวกับที่กูโดใช้การทุบพื้นเพื่อปลุกจักรพรรดิให้เข้าใจถึงความจริงที่ไม่ต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนแต่อย่างใด
อ่านต่อ: นิทานเซนสั้น ๆ สนุก ๆ ที่แฝงข้อคิดและช่วยให้คุณเข้าใจความสงบในชีวิต
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานเซนเรื่องอาจารย์กูโดกับจักรพรรดิ (อังกฤษ: Gudo and the Emperor) มาจากเรื่องเล่าของกูโด (Gudo) อาจารย์เซนที่มีชื่อเสียงในยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น และจักรพรรดิโกโยเซ (Goyozei) ผู้ทรงเป็นจักรพรรดิของญี่ปุ่นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 จักรพรรดิทรงสนใจในการศึกษาธรรมะเซนและได้ศึกษาภายใต้การดูแลของอาจารย์กูโด
เรื่องนี้สะท้อนถึงวิธีการสอนของกูโดที่มักจะใช้การตอบคำถามของจักรพรรดิด้วยการทดสอบและการกระทำที่ทำให้จักรพรรดิได้เรียนรู้โดยตรงจากประสบการณ์ ไม่ใช่จากคำตอบที่ชัดเจนเสมอไป เรื่องราวนี้เป็นตัวอย่างของวิธีการสอนในเซนที่เน้นการปลุกจิตใจให้ตื่นรู้ผ่านคำถามที่ท้าทายและการกระทำที่ลึกซึ้งมากกว่าการให้คำตอบที่ถูกต้องทางปัญญา
เรื่องนี้ยังสื่อถึงความเคารพในธรรมะและครูผู้สอนที่ไม่ยึดติดกับอำนาจหรือสถานะทางสังคม โดยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างจักรพรรดิและอาจารย์ ที่แม้จักรพรรดิจะเป็นผู้ปกครองสูงสุด แต่ก็ยังแสดงความเคารพและให้เกียรติกูโดที่เป็นเพียงอาจารย์เซนผู้หนึ่ง
คติธรรม “การปล่อยวางไม่ใช่แค่การละทิ้งคำตอบที่ไม่มีความหมาย แต่คือการเปิดใจให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะด้วยความเคารพและการเข้าใจ”