ปกนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที

นิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที

ในชีวิตของเราทุกคน ล้วนต้องเผชิญกับความท้าทายและการตัดสินใจที่ยากลำบาก บางครั้งการหาคำตอบในสิ่งที่ดูเหมือนง่าย กลับกลายเป็นการตั้งคำถามที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราคาดคิด

มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งจะพาเราไปสำรวจการฝึกฝนเซนที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่การแสดงออกในคำพูดหรือการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แต่คือการตระหนักรู้ในสิ่งเล็กน้อยและการมีสติในทุกช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งเป็นการฝึกฝนที่ลึกซึ้งที่สุด กับนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที

เนื้อเรื่องนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ วัดโบราณญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ในวันที่ฝนตกหนัก เท็นโนซึ่งเพิ่งจบการฝึกฝนเซนมาอย่างยาวนาน ได้เดินทางมาหาอาจารย์นันอิน อาจารย์เซนผู้เคร่งครัดของเขา เท็นโนได้รับการมอบหมายให้เป็นครูสอนผู้อื่นแล้ว

แต่วันนี้เขากลับมาในฐานะศิษย์ เพื่อมาหาคำตอบบางอย่างจากอาจารย์

ท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆฝน และฝนตกหนักจนต้องใช้ร่ม เท็นโนสวมรองเท้าเกี๊ยะไม้ และถือร่มเดินเข้ามาภายในห้องของอาจารย์นันอิน

เมื่อเข้าไปในห้อง เขาทักทายอาจารย์ด้วยรอยยิ้มว่า “สวัสดีครับท่านอาจารย์”

อาจารย์นันอินมองขึ้นมาจากเบาะแล้วพยักหน้าให้ “ข้าเห็นว่าเจ้าคงทิ้งรองเท้าเกี๊ยะไว้ที่ทางเข้าก่อนแล้วใช่ไหม?”

อาจารย์นันอินพูดด้วยน้ำเสียงสงบ ก่อนที่จะถามต่อไป “ข้าอยากรู้ว่า ร่มของเจ้าวางอยู่ข้างขวาหรือข้างซ้ายของรองเท้าเกี๊ยะ?”

คำถามของอาจารย์นันอินทำให้เท็นโนหยุดคิดไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกประหลาดใจ เพราะคำถามนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอนหรือสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ

แต่กลับเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการใส่ใจในสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วินาที การกระทำที่เขาทำไปโดยไม่คิดถึงมันเท่าไหร่

เท็นโนยืนมองอาจารย์นันอินด้วยความสงสัย เขาพยายามนึกหาคำตอบ “ข้า… ข้าก็ไม่ได้สนใจนักว่ารองเท้าเกี๊ยะและร่มวางตรงไหน” เขาพึมพำในใจ

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ขาดหายไป เขารู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ฝึกฝนให้ทุกการกระทำในชีวิตมีสติ เขามีความสามารถในการสอน แต่บางครั้งเขากลับไม่สามารถใส่ใจในสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิต

“ท่านอาจารย์หมายความว่าอะไรครับ?” เท็นโนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย

อาจารย์นันอินยิ้มอย่างใจเย็น และตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่เร่งร้อนว่า “การฝึกเซนไม่ได้หมายถึงแค่การรู้สิ่งที่ใหญ่โต หรือสิ่งที่เราคิดว่าเป็นความสำคัญเท่านั้น แต่มันหมายถึงการมีสติในทุก ๆ การกระทำ แม้แต่การวางร่มและรองเท้าเกี๊ยะ เมื่อเจ้าสามารถใส่ใจในสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ได้ ก็หมายความว่าเจ้ามีเซนอยู่ในตัวแล้ว”

เท็นโนเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่เขายังขาดหายไป เขาคิดในใจว่า “ข้าคงต้องเรียนรู้และฝึกฝนมากกว่านี้” เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับไปเรียนรู้จากอาจารย์นันอินต่อไป เพื่อฝึกฝนให้สามารถมีสติในทุกการกระทำของเขา

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที 2

เวลาผ่านไปหลายปี เท็นโนกลับมาหาอาจารย์นันอินอีกครั้ง หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะครูมาแล้ว แต่ครั้งนี้ เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเอง เขาเริ่มตระหนักว่าแม้จะเรียนรู้เซนจนเก่งกาจ แต่บางครั้งเขาก็ยังขาดการใส่ใจในทุกช่วงเวลาของชีวิต

“ท่านอาจารย์ครับ…” เท็นโนเริ่มกล่าวอย่างลังเล “ข้ารู้สึกเหมือนว่าข้ายังไม่สามารถฝึกฝนการมีสติได้ตลอดเวลา ทั้งในฐานะศิษย์และครู ข้ารู้สึกว่าข้าทำได้แค่บางเวลาเท่านั้น”

อาจารย์นันอินมองไปที่เขาและยิ้มเบา ๆ ก่อนที่จะพูดอย่างช้า ๆ “เจ้ามักจะเข้าใจผิดว่าเซนคือการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และประทับใจเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว มันคือการทำสิ่งที่ดูเหมือนธรรมดาให้มีความหมายในทุกวินาที”

เท็นโนพยักหน้าและถามต่อไป “แล้วข้าจะทำอย่างไรให้ทุกการกระทำของข้ามีสติในทุก ๆ นาทีล่ะครับอาจารย์?”

อาจารย์นันอินตอบด้วยความสงบว่า “ไม่ใช่แค่การพยายามหรือคิดถึงมัน แต่การทำให้สติอยู่กับสิ่งที่ทำในขณะนั้น ให้ความสำคัญกับการกระทำแต่ละอย่าง แม้กระทั่งการวางรองเท้าเกี๊ยะหรือการถือร่ม”

หลังจากคำตอบจากอาจารย์นันอิน เท็นโนเริ่มรู้สึกได้ถึงความจริงที่ลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของอาจารย์ เขาตระหนักว่าเซนไม่ใช่แค่การฝึกฝนทักษะทางจิตใจหรือการแสดงออกที่ดูดี แต่เป็นการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่

“ข้าต้องฝึกฝนในทุกวินาทีอย่างแท้จริง… ให้การกระทำแต่ละอย่างมีความหมายในตัวของมันเอง” เท็นโนพูดกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ

อาจารย์นันอินมองไปที่เท็นโนอย่างเข้าใจ “ใช่แล้ว เจ้าจะเข้าใจเซนได้มากขึ้นเมื่อเจ้าฝึกฝนไม่ใช่แค่ในเวลาเรียน หรือเมื่อเจ้าต้องการเท่านั้น แต่ฝึกฝนทุกวินาทีที่มีชีวิตอยู่”

อาจารย์นันอินกล่าวเบา ๆ ก่อนที่จะยิ้มให้เท็นโน “ขอให้เจ้ามีความสงบในทุกการกระทำ และหากเจ้าทำได้เช่นนั้น เจ้าจะเข้าใจเซนอย่างแท้จริง”

เท็นโนจ้องไปที่อาจารย์นันอินแล้วก็เริ่มเห็นแสงสว่างในใจเขา ความเข้าใจในเซนเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นในตัวเขา แม้ว่าเขาจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็รู้แล้วว่าเส้นทางนี้ต้องฝึกฝนไปทุกวัน ทุกการกระทำ และเขาพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยใจที่เปิดกว้างขึ้น

ภาพประกอบนิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… การมีสติในทุกการกระทำแม้ในเรื่องเล็กน้อย คือการฝึกฝนเซนที่แท้จริง การทำสิ่งต่างๆ ด้วยความตั้งใจและใส่ใจในทุกช่วงเวลาของชีวิต ช่วยให้เรามีความสงบและเข้าใจในธรรมชาติของการดำรงอยู่

เท็นโนเรียนรู้ว่า แม้เขาจะผ่านการฝึกฝนมานาน แต่การมีสติในทุก ๆ วินาที ยังเป็นสิ่งที่เขายังขาดไป การตั้งใจให้ความสำคัญกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการวางรองเท้าเกี๊ยะหรือการถือร่ม ไม่ได้เป็นแค่การทำสิ่งเหล่านั้นให้ถูกต้อง แต่คือการอยู่กับปัจจุบันและเข้าใจในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

การฝึกเซนไม่ได้แค่เกี่ยวกับการแสดงความรู้หรือการทำสิ่งใหญ่โต แต่เป็นการทำทุกสิ่งให้เต็มไปด้วยความตั้งใจและการตระหนักรู้ในแต่ละช่วงเวลา การทำเช่นนี้จะช่วยให้เรามีชีวิตที่มีความหมายและสงบสุขในทุก ๆ วัน

อ่านต่อ: รวมนิทานเซนสนุก ๆ สั้น ๆ สอนการปล่อยวางและความสงบตามหลักพุทธวิถีเซน

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานเซนเรื่องวิถีเซนในทุกนาที (อังกฤษ: Every-Minute Zen) นิทานเรื่องนี้มีต้นกำเนิดมาจากหนึ่งในเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับปรัชญาเซน ซึ่งมักจะเป็นคำสอนเกี่ยวกับการฝึกจิตใจและการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ โดยเล่าถึงการฝึกฝนของศิษย์ที่ต้องเรียนรู้ที่จะมีสติและความตระหนักรู้ในทุก ๆ การกระทำของตนเอง โดยไม่มีการแยกแยะระหว่างเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในการฝึกฝนจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับปัจจุบัน

นิทานนี้เกี่ยวข้องกับนันอิน (Nan-in) อาจารย์เซนผู้มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น และเท็นโน (Tenno) ซึ่งเป็นศิษย์ที่เพิ่งจบการฝึกฝนเซนและกำลังเตรียมตัวสอนผู้อื่น เมื่อเขามาพบกับนันอินในวันที่ฝนตก และนันอินได้ถามคำถามเกี่ยวกับการวางรองเท้าเกี๊ยะและร่มของเขา ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่ได้คาดหวังคำตอบง่ายๆ แต่มุ่งเน้นให้เท็นโนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีสติในทุกการกระทำ แม้ในเรื่องเล็กน้อยที่มักถูกมองข้ามไป

เรื่องนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงการฝึกเซนในชีวิตประจำวัน และการที่ผู้ฝึกจะต้องฝึกฝนให้มีสติอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

คติธรรม: “ทุกการกระทำที่เราทำด้วยใจที่มีสติ คือการฝึกฝนเซนที่แท้จริง เพราะเซนไม่ได้อยู่ในคำสอน แต่คือการสัมผัสความจริงในทุกวินาทีของชีวิต”


by