ในครัวอันเงียบสงบของบ้านหลังหนึ่ง หม้อน้ำซุปร้อนระอุส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง ดึงดูดแมลงวันตัวหนึ่งที่บินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความตื่นเต้น แมลงวันผู้ชื่นชอบการสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ถูกล่อลวงด้วยกลิ่นซุปอันเย้ายวนใจ
มันไม่อาจห้ามใจที่จะเข้าไปใกล้เพื่อสัมผัสรสชาติที่มันคาดหวังว่าจะเป็นความสุขครั้งใหญ่ แต่การตัดสินใจของมันในครั้งนี้กลับนำพาไปสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของชีวิตมัน… กับนิทานอีสปเรื่องแมลงวันในน้ำซุป
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องแมลงวันในน้ำซุป
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในครัวของบ้านหลังหนึ่ง หม้อน้ำซุปร้อนระอุส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง กลิ่นซุปที่เคี่ยวจนได้ที่นี้ดึงดูดแมลงวันตัวหนึ่งซึ่งบินว่อนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความตื่นเต้น แมลงวันผู้ชอบความสะดวกสบายและเสาะหาสิ่งหอมหวลพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงรื่นเริง “ข้าคงต้องลองลิ้มรสความหอมนี้แล้ว! โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นี่คือสวรรค์ที่ข้าเฝ้าตามหา”
มันบินโฉบลงมาที่ขอบหม้อซุป สูดกลิ่นด้วยความสุขใจ และพูดกับตัวเองว่า “นี่แหละ ชีวิตอันสมบูรณ์แบบ! ข้าจะชิมน้ำซุปนี้สักหน่อย ไม่มีใครรู้หรอก!” แมลงวันยื่นปากเล็ก ๆ ลงไปจิบซุป รสชาติของมันทำให้มันยิ้มด้วยความพึงพอใจ “โอ้ ช่างยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้! ข้าโชคดีเหลือเกินที่ได้เจอสิ่งนี้”
แต่ในความประมาทของมัน ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับรสชาติ ขามันกลับลื่นไถลเพราะไอน้ำที่เกาะอยู่บนขอบหม้อ แมลงวันพลัดตกลงไปในหม้อซุป มันตีปีกและพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง “ช่วยด้วย! ข้ากำลังจมน้ำซุป!” มันร้องตะโกน แต่ไม่มีใครได้ยิน
แมลงวันพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากน้ำซุปที่ร้อนระอุ มันตีปีกสุดแรง แต่น้ำซุปที่ลื่นและร้อนทำให้มันเริ่มหมดแรง “ข้าจะรอดออกจากที่นี่ได้หรือไม่? หรือว่านี่คือจุดจบของข้า…” มันพูดกับตัวเองด้วยเสียงสั่นเครือ
เมื่อเรี่ยวแรงใกล้จะหมด แมลงวันหยุดดิ้น มันลอยตัวนิ่งกลางหม้อซุปและเริ่มคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา “แต่เดี๋ยวก่อน…” มันพูดเบา ๆ “ข้าได้กินแล้ว ข้าได้ดื่มแล้ว และข้าได้อาบในน้ำซุปร้อนหอมนี้ ชีวิตข้าช่างสมบูรณ์แล้ว” มันถอนหายใจยาวและนึกย้อนถึงวันที่มันยังบินได้อย่างอิสระ
และมันก็ได้ลำลึกถึงความหลังของชีวิต “ข้าเคยได้เต้นรำกลางแสงตะวัน เคยได้สัมผัสลมเย็นที่พัดผ่านทุ่งหญ้า ข้าได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ ได้ลิ้มรสหยดน้ำค้างที่เกาะบนใบไม้ยามเช้า แม้ชีวิตของข้าจะสั้น แต่ทุกวันของข้าช่างเปี่ยมด้วยความสุข” มันยิ้มเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิใจ
แมลงวันพูดกับตัวเองต่อไปด้วยน้ำเสียงสงบ “แม้เวลาของข้าจะไม่ยืนยาว แต่ข้าก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ข้ารู้จักทั้งความสุขและความทุกข์ ข้าได้สัมผัสทั้งความอิ่มเอมและความยากลำบาก หากนี่คือวาระสุดท้ายของข้า ข้าก็จะยอมรับมัน ข้าจะจากไปอย่างไม่เสียใจ”
ในวาระสุดท้าย แมลงวันหลับตาลงและปล่อยตัวเองลอยอยู่ในน้ำซุป กลิ่นหอมที่ครั้งหนึ่งเคยดึงดูดมัน บัดนี้กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่มันได้สัมผัส ไอร้อนจากหม้อซุปโอบล้อมตัวมันไว้ และในที่สุด แมลงวันก็จากไปอย่างสงบ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ชีวิตคือสิ่งสวยงาม แม้จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เราควรชื่นชมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทาง ไม่ใช่มุ่งแต่เป้าหมายเพียงอย่างเดียว ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ระหว่างทางนั้น เราสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ด้วยการมองเห็นความงดงามในทุกช่วงเวลา และให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในปัจจุบัน เพราะทุกลมหายใจคือโอกาสที่ควรค่าแก่การทะนุถนอมเสมอ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องแมลงวันในน้ำซุป (อังกฤษ: The Fly in the Soup) มาจากนิทานกรีกที่บันทึกไว้ทั้งในรูปแบบร้อยแก้วและบทกวี ถูกจัดลำดับอยู่ใน Perry Index ลำดับที่ 167 (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) บทเรียนของนิทานเรื่องนี้คือต้องรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายด้วยความสงบ แต่หลังยุคคลาสสิก นิทานเรื่องนี้กลับถูกบันทึกไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ชีวิตไม่แน่นอน แต่ความตายแน่นอนเสมอ
โดยเป็นเรื่องราวของแมลงวันตกลงไปในหม้อซุปและคิดก่อนจะจมน้ำตาย “ข้าได้กินแล้ว ข้าได้ดื่มแล้ว ข้าได้อาบน้ำแล้ว ถ้าข้าตาย ข้าจะสนใจอะไร” Babrius บันทึกเรื่องราวในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเป็นเรื่องราวของหนูตัวหนึ่งยอมรับจุดจบของตนเองในลักษณะปรัชญา มันตกลงไปในหม้อน้ำซุปที่ไม่มีฝาปิด ขณะที่มันกำลังสำลักน้ำและหายใจไม่ออก มันพูดว่า “ฉันกินและดื่มจนอิ่มแล้ว และฉันกินอาหารดี ๆ ทุกชนิดจนอิ่มแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว!”