ในโลกนี้ มีทั้งผู้ที่รู้คุณและผู้ที่ไม่เห็นค่าในความช่วยเหลือ บางครั้งเรามอบน้ำใจให้แก่ผู้อื่นด้วยความหวังดี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาอาจไม่เป็นอย่างที่คาดคิด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะตอบแทนบุญคุณ และบางคนอาจมองว่าความเมตตาของเรานั้นเป็นเพียงโอกาสที่จะหาประโยชน์เท่านั้น
เรื่องราวของหมาป่าผู้ตกที่นั่งลำบากและนกกระเรียนผู้ใจดี จะเป็นบทเรียนเตือนใจว่า การช่วยเหลือใครสักคนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนเสมอไป และบางครั้ง การช่วยผิดคน อาจทำให้เรากลายเป็นผู้เสียเปรียบเอง กับนิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับนกกระเรียน

นิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับนกกระเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กลางป่าลึกริมธารที่เงียบสงัด หมาป่าตัวหนึ่งออกล่าเหยื่อ มันพบซากกวางตัวหนึ่งที่เพิ่งสิ้นใจไปไม่นาน ด้วยความหิวโหย
หมาป่ากระโจนเข้ากัดกินเนื้ออย่างตะกละตะกรามโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น มันฉีกเนื้อและเคี้ยวอย่างรวดเร็ว แต่แล้วจู่ ๆ กระดูกชิ้นหนึ่งกลับติดคอของมัน!
หมาป่าผงะไปทันที มันพยายามไอ พยายามกลืน แต่กระดูกเจ้าปัญหากลับฝังลึกเข้าไปในลำคอ ทำให้มันทั้งเจ็บปวดและหายใจติดขัด
“อึก… บ้าจริง!” หมาป่าครางในลำคอ มันพยายามขยับกราม กลืนหรือแม้แต่สะบัดหัวแรง ๆ เพื่อให้กระดูกหลุดออกมา แต่ยิ่งทำเช่นนั้น กระดูกก็ยิ่งฝังแน่นขึ้น
ความเจ็บปวดทำให้หมาป่าเริ่มตระหนก มันไม่อาจกินหรือดื่มอะไรได้อีก หากปล่อยไว้นานกว่านี้มันอาจตายจากความหิวหรือความเจ็บปวดเสียเอง
มันเดินไปทั่วป่าพยายามหาวิธีช่วยตัวเอง จนกระทั่งมันเห็นนกกระเรียนยืนอยู่ริมลำธาร นกกระเรียนตัวนั้นสูงเพรียว มีคอยาวและจะงอยปากเรียวแหลม
“เจ้านี่แหละ!” หมาป่าคิด ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหานกกระเรียน
“สหายนกกระเรียน ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด!” มันเอ่ยขึ้น นกกระเรียนมองมันด้วยความระแวดระวัง “ช่วยอะไรหรือ?”
“กระดูกเจ้าปัญหาติดคอข้า ข้าเจ็บแทบตายแล้ว! เจ้ามีจะงอยปากที่เรียวยาว เจ้าสามารถใช้มันล้วงเข้าไปในคอข้าและคีบกระดูกออกมาได้ ข้าขอร้อง!”
หมาป่าพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน “หากเจ้าช่วยข้า ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม!”
นกกระเรียนลังเลเล็กน้อย การเอาหัวของตนเองเข้าไปในปากของหมาป่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง แต่เมื่อมันมองดูหมาป่าที่กำลังเจ็บปวด
มันก็เริ่มเห็นใจ อีกทั้งคำว่า “ตอบแทนอย่างงาม” ก็ทำให้มันคิดว่าอาจเป็นโอกาสดี
“ตกลง ข้าจะช่วยเจ้า!” นกกระเรียนตอบ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้หมาป่า มันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ สอดจะงอยปากเข้าไปในปากหมาป่า
ลึกเข้าไปในลำคอจนเกือบถึงกระดูกที่ติดอยู่ หมาป่าพยายามอ้าปากให้กว้างที่สุดเพื่อให้นกกระเรียนทำงานได้สะดวก

นกกระเรียนใช้จะงอยปากคีบกระดูกออกมาอย่างระมัดระวัง “เกือบแล้ว… อีกนิดเดียว…” มันพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็คีบกระดูกออกมาได้สำเร็จ!
มันทิ้งกระดูกลงกับพื้นแล้วรีบถอยออกห่างจากหมาป่า ก่อนจะถอนหายใจโล่งอก
“ข้าทำสำเร็จแล้ว! เจ้าหายดีแล้ว!” นกกระเรียนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
แต่แทนที่หมาป่าจะกล่าวคำขอบคุณ มันกลับหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะจ้องนกกระเรียนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ข้าหายดีแล้ว!”
“ไหนล่ะรางวัลของข้า?” นกกระเรียนถามอย่างคาดหวัง
หมาป่ายิ้มเยาะ “รางวัลอย่างนั้นหรือ? เจ้าช่างไม่รู้เลยว่า เจ้าได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว!”
“หมายความว่าอย่างไร?” นกกระเรียนเริ่มรู้สึกไม่ดี
หมาป่าขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าสอดหัวเข้าไปในปากของข้า แต่ข้าไม่ได้กัดเจ้าตาย นั่นก็นับเป็นรางวัลอันล้ำค่าที่สุดแล้ว!”
“อะไรนะ!?” นกกระเรียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจและโกรธเคือง “เจ้าสัญญาว่าจะตอบแทนข้า!”
“ข้าก็ให้รางวัลเจ้าแล้วไง เจ้ารอดชีวิตออกจากปากของข้าโดยที่ข้าไม่ขย้ำเจ้าตาย เจ้ายังจะเรียกร้องสิ่งใดอีก?” หมาป่าหัวเราะ ก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้นกกระเรียนยืนตกตะลึงกับความเจ้าเล่ห์ของมัน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… “ผู้ที่โง่เขลาไปช่วยเหลือคนชั่ว มักไม่ได้รับสิ่งตอบแทน นอกจากการหักหลัง”
นกกระเรียนช่วยชีวิตหมาป่าด้วยความหวังดี แต่หมาป่ากลับมองว่าการไม่ฆ่านกกระเรียนก็นับเป็นรางวัลแล้ว เช่นเดียวกับชีวิตจริง ผู้ที่ช่วยเหลือคนไม่รู้คุณ มักไม่ได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน
“อย่าให้ความเมตตาทำให้เราตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ไม่เห็นคุณค่า”
อ่านต่อ: อ่านนิทานอีสปสุดคลาสสิกมากกว่า 100 เรื่อง อิงจากต้นฉบับมากที่สุดที่ taleZZZ ที่ให้ทั้งความสนุกและข้อคิดสอนใจ
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับนกกระเรียน (อังกฤษ: The Wolf and the Crane) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป ที่มีเรื่องราวคล้ายคลึงกันในนิทานพื้นบ้านตะวันออก บางเวอร์ชันใช้ สิงโตแทนหมาป่า และแทนที่ นกกระเรียนด้วยนกกระสา นกกระยาง หรือไก่ฟ้า
โดยเรื่องราวหมาป่าตัวหนึ่งกำลังกินอาหาร แต่กระดูกเล็ก ๆ ติดคอ มันเจ็บปวดอย่างหนักและอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากสัตว์อื่น ๆ พร้อมให้คำมั่นว่าจะมอบรางวัลแก่ผู้ช่วยเหลือ ในที่สุดนกกระเรียน ยอมช่วยเหลือ ใช้ปากที่ยาวของมันสอดเข้าไปในปากหมาป่า ดึงเอากระดูกออกมา เมื่อมันขอรางวัลตามที่หมาป่าสัญญาไว้ หมาป่ากลับตอบว่า “เจ้าสอดหัวเข้าไปในปากหมาป่าและรอดมาได้โดยปลอดภัย นั่นก็นับเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่แล้ว!”
“อย่าคาดหวังบุญคุณจากผู้ที่ไร้คุณธรรม และจงหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับคนชั่วเพื่อป้องกันอันตรายในอนาคต”
ในเวอร์ชันดั้งเดิม ฟีดรัส (Phaedrus) ใช้นกกระเรียน ขณะที่บาบริอุส (Babrius) ใช้นกกระสา แต่สัตว์ที่ได้รับความช่วยเหลือยังคงเป็นหมาป่าเหมือนเดิม
นิทานนี้คล้ายกับ “ชวสกุณชาดก” (Javasakuna Jataka) ในนิกายพุทธ ซึ่งเล่าว่า นกหัวขวานช่วยสิงโตเอากระดูกออกจากคอ โดยใช้ไม้ค้ำปากสิงโตไว้เพื่อป้องกันอันตราย แต่เมื่อขอรางวัลกลับได้รับคำตอบเดียวกับหมาป่า “ว่าข้าไปกินเจ้าก็บุญของเจ้าแล้ว”