นิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ

ปกนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ

ในเมืองของสัตว์กลางป่าใหญ่ มีลาตัวหนึ่งที่ได้รับหน้าที่แบกรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน ทุกวันผู้คนจะมาก้มกราบรูปเคารพนั้น ลาเห็นว่าผู้คนกราบไหว้ทุกครั้งที่ผ่านไป และเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขากำลังกราบไหว้ตนเอง จึงเริ่มรู้สึกภูมิใจและหยิ่งผยองในตัวเอง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ถึงอันตรายของการหลงตนและความสำคัญของการรู้จักถ่อมตน โดยเข้าใจสถานะที่แท้จริงของตนเอง เรื่องราวจะเป็นเช่นไร กับนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองกลางป่าใหญ่ที่สัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่อย่างสงบสุข มีงานเฉลิมฉลองที่สัตว์ทุกตัวรอคอยด้วยความตื่นเต้น ลาตัวหนึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่แบกรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ในขบวนแห่ใหญ่ มันถูกประดับด้วยพวงมาลัยดอกไม้และเครื่องประดับวิจิตร จนรู้สึกภาคภูมิใจในหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตน

เมื่อขบวนแห่เริ่มต้น ลาก็ยืดตัวเดินด้วยท่าทางสง่างามไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่มารอชม สัตว์น้อยใหญ่ต่างทำความเคารพและสรรเสริญรูปเคารพด้วยเสียงแซ่ซ้อง

“โอ้ ช่างศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ!” ลาเห็นท่าทีของฝูงสัตว์ก็คิดว่า “พวกเขาต่างชื่นชมข้า ข้าเป็นลาที่สำคัญที่สุดในเมืองนี้แน่นอน” มันเดินด้วยความเย่อหยิ่งและคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของงานฉลอง

แต่ในไม่ช้า ความเข้าใจผิดของลาก็ทำให้มันเริ่มลืมตัว มันหยุดกลางทางและร้องออกมาเสียงดังว่า “เจ้าทุกตัว ดูข้านี่สิ ข้าคือผู้ที่แบกรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์! พวกเจ้าควรจะชื่นชมข้า!”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ 2

ฝูงสัตว์ต่างนิ่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วสิงโตซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองก็ก้าวออกมาพูดด้วยเสียงเข้ม

“เจ้าลา เจ้าหลงตัวเองไปแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ตัวเจ้า แต่เป็นสิ่งที่เจ้าถูกมอบหมายให้แบกต่างหาก”

ลารู้สึกอับอายและตระหนก มันพยายามอธิบายตัวเองแต่เสียงหัวเราะจากฝูงสัตว์ก็ดังขึ้น

“เจ้าลาโง่! เราเคารพรูปเคารพ ไม่ใช่ตัวเจ้าหรอก!” สัตว์บางตัวตะโกนเยาะเย้ย ลารู้สึกเหมือนพื้นดินจะถล่มใต้เท้า มันรู้ว่าตนเองทำผิดมหันต์ที่ปล่อยให้ความภาคภูมิใจทำให้ลืมสถานะที่แท้จริง

หลังจากงานจบลง ลากลับมายังคอกด้วยความรู้สึกอับอาย มันนั่งเงียบอยู่คนเดียวและคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“ข้าทำผิดจริง ๆ ความสำคัญของข้าอยู่ที่การทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่การหลงคิดว่าตัวเองเป็นที่ยกย่อง” ลาพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

จากวันนั้น ลาก็ทำหน้าที่ของมันด้วยความถ่อมตน มันไม่หลงผิดในความภาคภูมิใจอีกต่อไป และเข้าใจว่าหน้าที่ของมันคือการทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายด้วยความซื่อสัตย์และเคารพต่อสถานะของตนเอง

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการหลงตนเองและคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของความสำเร็จหรือการยกย่องจากผู้อื่น อาจทำให้เราลืมความจริงและหลงผิดในสถานะของเราเอง บทเรียนนี้มีความสำคัญในชีวิตจริง โดยชี้ให้เห็นว่าการได้รับการยกย่องจากผู้อื่นอาจไม่ได้เกิดจากตัวเราโดยตรง แต่อาจเกิดจากสิ่งที่เราทำหรือสิ่งที่เราถือครอง เช่น ตำแหน่ง หน้าที่ หรือบทบาท

การรู้จักถ่อมตนและไม่หลงผิดในความสำคัญของตัวเองเป็นคุณสมบัติที่มีค่า หากเราได้รับคำชมหรือความสำเร็จ การรู้จักขอบคุณและเข้าใจว่ามันมาจากการทำงานร่วมกันของทีม หรือมาจากการทำหน้าที่ของเราอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เราเป็นคนที่มีความเข้าใจและยอมรับตัวเองได้อย่างแท้จริง การมีความถ่อมตนจะทำให้เราได้รับความเคารพที่แท้จริงจากคนรอบข้างมากขึ้น

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องลากับรูปเคารพ (อังกฤษ: The Ass Carrying an Image) เป็นนิทานอีสปเรื่องหนึ่ง ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 182 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) โดยเล่าเรื่องของลาที่แบกรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์และเข้าใจผิดคิดว่าผู้คนที่ก้มกราบคือการให้เกียรติตน เมื่อมันหยิ่งยโสและไม่ยอมเดินต่อ คนขับจึงต้องตีลาและบอกว่าผู้คนไม่ได้เคารพลา แต่เคารพรูปเคารพที่มันถือไว้ เรื่องนี้ถูกนำมาตีความในหลายยุคสมัย รวมถึงการใช้ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เพื่อสื่อถึงความหลงตัวและหน้าที่ในสำนักงานและศาสนา

นิทานเรื่องนี้สามารถใช้เปรียบเปรยถึงคนหยาบคายที่อ้างเอาเกียรติยศของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com