ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีใครสามารถป้องกันตนเองจากผู้มีอำนาจได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผู้ที่มีเกราะป้องกันแข็งแกร่งที่สุด ก็อาจพ่ายแพ้ให้กับอำนาจและเล่ห์กลของผู้ที่อยู่เหนือกว่า
และยิ่งไปกว่านั้นการทรยศสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากมีที่ปรึกษาที่คิดร้ายอยู่เบื้องหลัง ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของอำนาจเถื่อนย่อมต้องพินาศ ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอของตนเอง แต่เพราะการถูกชักนำไปสู่กับดักที่มิอาจหลีกหนี กับนิทานอีสปเรื่องอินทรีกับอีกา
เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องอินทรีกับอีกา
กลางท้องฟ้ากว้างใหญ่ เหนือภูเขาสูงตระหง่าน อินทรี ผู้เป็นราชาแห่งเวหา กำลังบินร่อนเหนือป่าลึก มันเป็นนักล่าผู้สง่างาม ดวงตาคมกริบของมันจับจ้องไปทั่วเบื้องล่าง มองหาเหยื่อที่เหมาะสมสำหรับมื้ออาหารวันนี้
ทันใดนั้น มันเหลือบเห็น เต่า ตัวหนึ่ง ค่อยๆ คลานอยู่บนโขดหินริมหน้าผา อินทรีฉีกยิ้ม มันรู้ดีว่าเต่าเป็นเหยื่อที่มีเกราะป้องกันแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นเป้าหมายที่เคลื่อนที่เชื่องช้าเกินกว่าที่จะหนีไปได้
อินทรีโฉบลงมาทันที กรงเล็บแหลมคมของมันเกี่ยวร่างเต่าอย่างแม่นยำก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เต่าดิ้นรนพยายามต้านทาน แต่กระดองของมันแข็งแกร่งเกินกว่าที่อินทรีจะจิกทะลุ
“ข้าได้เหยื่อที่อุดมสมบูรณ์ แต่ทำไมข้าจึงกินมันไม่ได้?” อินทรีพึมพำ มันพยายามจิกซ้ำๆ แต่ไม่เป็นผล
ขณะที่อินทรีกำลังขบคิดหาทาง อีกาตัวหนึ่งที่บินผ่านมาพอดี สังเกตเห็นสถานการณ์และตัดสินใจฉวยโอกาส
“ท่านอินทรีผู้ยิ่งใหญ่ ข้าเห็นว่าท่านจับเหยื่อชิ้นโตได้ แต่ดูเหมือนท่านจะลำบากในการจัดการมัน ท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?” อีกากล่าว พลางบินเข้ามาใกล้
อินทรีหรี่ตาลง “ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า! ข้าสามารถจัดการเหยื่อของข้าเอง!”
อีกายิ้มเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ท่านแข็งแกร่งที่สุดในท้องฟ้า แต่บางครั้ง กำลังเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ท่านคงไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆ หรอกใช่ไหม?”
อินทรีเริ่มสนใจ “แล้วเจ้ามีแผนอะไร?”
“ง่ายดายมาก!” อีกาตอบ “ท่านเพียงต้องปล่อยเต่าลงจากที่สูง ปล่อยให้มันตกกระแทกโขดหิน เมื่อนั้น กระดองแข็งของมันก็จะแตกออก และท่านจะได้ลิ้มรสมันอย่างง่ายดาย!”
อินทรีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “แล้วเจ้าต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทน?”
“ข้าเพียงขอแบ่งเนื้อเต่าสักส่วนหนึ่ง ถือว่าเป็นค่าคำแนะนำจากอาจารย์ของท่าน!” อีกากล่าวพร้อมหัวเราะ
อินทรีแสยะยิ้ม “ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นไปตามนั้น!”
อินทรีกางปีกอย่างทรงพลัง มันบินสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมองเห็นภูมิทัศน์ทั้งหมดรอบตัว เต่าพยายามดิ้นรนในกรงเล็บ แต่มันไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของอินทรีได้
“ปล่อยข้าไปเถิด!” เต่าร้องขอ “เจ้าไม่มีทางทำอะไรข้าได้!”
“ข้าไม่มีทางทำอะไรเจ้า? ฮ่าๆๆ! อีกไม่กี่อึดใจ เจ้าจะรู้เอง!” อินทรีหัวเราะ ก่อนจะบินไปยังบริเวณที่มีโขดหินแหลมคม
“เตรียมตัวให้พร้อม! กระดองของเจ้าจะไม่มีวันรอดพ้นจากแผนนี้!” อินทรีกล่าว ก่อนจะปล่อยเต่าร่วงลงจากที่สูง
เต่าหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว มันพยายามหดหัวเข้าไปในกระดอง แต่ไม่มีอะไรสามารถช่วยมันได้
“ปัง!”
เสียงกระดองกระแทกโขดหินดังสะท้อนก้องไปทั่ว หินแตกเป็นเสี่ยงๆ เช่นเดียวกับเกราะป้องกันตามธรรมชาติของเต่า
อินทรีโฉบลงมาทันที และจิกเนื้อเต่ากินอย่างรวดเร็ว ขณะที่อีกาโบยบินลงมาใกล้ มันยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นแผนการของตนสำเร็จ อินทรีมองอีกาและไม่ลืมคำสัญญา มันฉีกชิ้นส่วนเนื้อเต่าส่งให้เพื่อนผู้เจ้าเล่ห์
“ขอบคุณ อาจารย์แห่งปัญญา!” อินทรีกล่าวพร้อมหัวเราะ
อีกากินเนื้อเต่าด้วยความอิ่มเอม มันมองไปยังซากกระดองที่แตกเป็นเสี่ยงๆ และพึมพำกับตัวเอง
“แม้แต่สิ่งที่ธรรมชาติได้มอบเกราะป้องกันอันแข็งแกร่ง ก็ยังมิอาจรอดพ้นจากเล่ห์กลของผู้ฉลาดและผู้มีอำนาจ!”
และแล้ว สายลมก็พัดพาเศษซากของเต่ากระจัดกระจายไปตามผืนดิน ขณะที่อินทรีและอีกาโบยบินเข้ามาลิ้มลองเนื้อเต่าอันโอชะโดยไร้ซึ่งความสำนึกผิดใด ๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อำนาจและปัญญาที่ถูกใช้ในทางที่ผิด ย่อมทำลายผู้ที่อ่อนแอกว่า” เต่ามีเกราะป้องกันจากธรรมชาติ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากอุบายของอีกาและพลังของอินทรี ในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและอำนาจเถื่อน ผู้ที่ไร้หนทางปกป้องตัวเองย่อมตกเป็นเหยื่ออย่างง่ายดาย
อีกาใช้เพียงวาจาและความเจ้าเล่ห์ หลอกให้อินทรีทำงานแทนตนเอง เช่นเดียวกับในสังคมที่บางคนไม่ได้ใช้กำลังของตนเอง แต่กลับใช้ไหวพริบและเล่ห์เหลี่ยมเพื่อบงการผู้อื่นให้ทำสิ่งที่ต้องการ
สุดท้าย แม้เกราะป้องกันจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่หากไม่รู้จักระวังภัย เราอาจถูกทำลายด้วยเล่ห์กลของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
ที่มาของนิทานเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องอินทรีกับอีกา (อังกฤษ: The Eagle and the Crow) เป็นหนึ่งในนิทานอีสป มีนิทานเกี่ยวกับเต่าและนกที่เล่าขานในนามของอีสป (Aesop) อยู่สองเรื่อง หนึ่งเป็นภาษากรีกโดยบาบริอุส (Babrius) คือนิทานอีสปเรื่องเต่ากับอินทรี และอีกหนึ่งเป็นภาษาละตินโดยฟีดรัส (Phaedrus) คือนิทานในบทความนี้ โดยนิทานเรื่องนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ที่การทรยศสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของนิทานของฟีดรัส (Phaedrus) เล่าไว้ในชื่อ “อินทรีกับอีกา” (The Eagle and the Crow, 2.6) นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 490 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ)
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยคำกล่าวว่า “ไม่มีใครสามารถป้องกันตนเองจากผู้มีอำนาจได้อย่างสมบูรณ์ และหากมีที่ปรึกษาที่คิดร้ายอยู่เบื้องหลัง ผู้ตกเป็นเหยื่อของอำนาจเถื่อนย่อมต้องพินาศ”
ฟีดรัสเล่าถึงอินทรีที่จับเต่าได้แต่กินไม่ได้เพราะกระดองแข็ง อีกาที่บินผ่านมาแนะนำให้ปล่อยเต่าลงจากท้องฟ้าให้กระแทกโขดหิน ด้านล่าง เพื่อให้กระดองแตกแล้วจะกินเนื้อเต่าได้ง่ายขึ้น อินทรียอมทำตามแผนและทั้งสองแบ่งซากเต่ากัน
ต่อมาเมื่อวอลเตอร์แห่งอังกฤษ (Walter of England) นำเรื่องนี้มาเล่าใหม่ เขาได้เพิ่มองค์ประกอบของการทรยศอีกระดับ โดยเปลี่ยนให้อีกาพบอินทรีที่หงุดหงิดเพราะกินเต่าไม่ได้ และแนะนำให้มันบินขึ้นสูงแล้วปล่อยเต่าลง แต่แทนที่อีกาจะรอแบ่งอาหาร มันกลับฉวยเต่าที่ร่วงลงมาแล้วบินหนีไปก่อนที่อินทรีจะกลับมาถึง!