นิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด

ปกนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด

ในโลกที่เสียงดังมักดึงดูดความสนใจ ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะมองว่าสิ่งที่ส่งเสียงดังที่สุดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่บางครั้ง ความเงียบและการทำหน้าที่อย่างไม่เอะอะ กลับซ่อนความสำคัญไว้มากกว่าที่ตาเห็น

เรื่องราวของวัวผู้ขยันขันแข็งและเกวียนเก่าที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด จะพาเราไปพบกับบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาความจริงที่อยู่เบื้องหลังเสียงเหล่านั้น กับนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด

เนื้อเรื่องนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านชนบทเล็ก ๆ มีวัวคู่หนึ่งที่ทำงานรับใช้เจ้าของอย่างซื่อสัตย์ พวกมันมักถูกใช้ลากเกวียนบรรทุกของหนักจากฟาร์มไปยังตลาดในเมือง ชีวิตของวัวทั้งสองเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่มันไม่เคยบ่นอะไร

วันหนึ่ง เจ้าของฟาร์มโหลดถุงธัญพืชหลายสิบถุง รวมทั้งท่อนไม้หนัก ๆ ลงบนเกวียนเก่าเกวียนหนึ่ง เกวียนนั้นดูเหมือนจะผ่านการใช้งานมานานจนล้อและแกนเริ่มหลวม เจ้าของจึงมัดของทุกอย่างแน่นหนาแล้วผูกวัวคู่โปรดของเขาเข้ากับเกวียน ก่อนตบไหล่วัวเบา ๆ “พวกเจ้านี่แหละที่ข้าภูมิใจ ลากเกวียนนี้ไปให้ถึงตลาดอย่างที่เคยทำนะ”

วัวทั้งสองออกเดินลากเกวียนไปตามทางที่ขรุขระ ท่ามกลางแสงแดดจ้าและอากาศร้อน เสียงล้อเกวียนที่หลวมส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังลั่นทุกครั้งที่มันเคลื่อนไปตามทางลาด ขณะที่วัวทั้งสองยังคงก้มหน้าก้มตาเดินไปด้วยความมุ่งมั่น

เสียงเอี๊ยดอ๊าดของเกวียนดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกลบทุกเสียง วัวตัวหนึ่งเริ่มรู้สึกหงุดหงิด มันหันไปพูดกับเกวียนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “เจ้าจะส่งเสียงดังทำไม? เจ้าแค่ถูกลากไปเท่านั้น ไม่ได้แบกน้ำหนักอะไรเลย ดูสิ! ผู้ที่กำลังแบกเจ้าไว้บนบ่าอย่างพวกเรายังไม่บ่นสักคำ!”

เกวียนยังคงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ไม่ได้ตอบอะไร วัวตัวที่สองจึงพูดเสริมด้วยน้ำเสียงระอา “ข้าไม่เข้าใจเลย เจ้าทำตัวเหมือนเป็นผู้ที่ทำงานหนักที่สุด ทั้งที่น้ำหนักทั้งหมดนี้ตกอยู่ที่พวกเรา ล้อของเจ้าแค่หมุนตาม แต่เจ้ากลับทำเสียงโวยวายจนทุกคนคิดว่าเจ้าคือผู้ที่ลำบากที่สุด”

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด 2

เกวียนยังคงดังเอี๊ยดอ๊าดตามเดิม ขณะที่วัวทั้งสองเดินต่อไปด้วยความเหนื่อยล้า พวกมันต้องหยุดเป็นระยะเพื่อพักหายใจ แต่ล้อเกวียนยังส่งเสียงต่อเนื่องแม้ขบวนจะหยุดพัก

ในระหว่างทาง มีชาวบ้านหลายคนที่มองมาด้วยความสนใจ พวกเขาต่างพากันพูดถึงเสียงเกวียน “ดูสิ เกวียนเก่านั่นทำเสียงดังขนาดนี้ มันคงหนักมากแน่ ๆ!” ชาวบ้านอีกคนกล่าว “ใช่แล้ว ล้อคงต้องรับน้ำหนักมากจนทนแทบไม่ไหว!”

วัวได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่กลับไม่มีใครพูดถึงความเหน็ดเหนื่อยของมันแม้แต่คนเดียว วัวตัวหนึ่งจึงพูดกับเพื่อนว่า “เห็นไหมล่ะ? เสียงดังของเกวียนทำให้คนลืมว่าพวกเราแบกภาระหนักที่สุด ใคร ๆ ก็คิดว่ามันลำบาก ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ทำอะไรเลย”

วัวทั้งสองลากเกวียนต่อไปจนถึงตลาด แม้จะเหนื่อยจนตัวสั่น แต่พวกมันยังคงเงียบ ไม่เอ่ยปากบ่น เจ้าของจึงมอบหญ้าสดและน้ำเย็นให้พวกมันกินเป็นรางวัล ส่วนเกวียนนั้นยังคงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด แม้จะไม่มีของหนักบรรทุกอยู่แล้ว

ภาพประกอบนิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด 3

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่ส่งเสียงดังหรือแสดงออกมากที่สุด มักไม่ใช่ผู้ที่ทำงานหนักหรือแบกรับภาระที่แท้จริง ในขณะที่ผู้ที่ทำหน้าที่สำคัญและเผชิญความลำบากอย่างแท้จริง มักจะทำงานอย่างเงียบ ๆ โดยไม่เรียกร้องความสนใจ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินจากสิ่งที่เห็นหรือได้ยินเพียงผิวเผิน แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อมองเห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลัง

ที่มาของนิทานเรื่องนี้

นิทานอีสปเรื่องวัวกับเกวียนที่ดังเอี๊ยดอ๊าด (อังกฤษ: The Oxen and the Creaking Cart) เป็นนิทานเชิงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอีสป นิทานเรื่องนี้ได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 45 ของ Perry Index (Perry Index คือดัชนีการจัดหมวดหมู่ของนิทานอีสปที่รวบรวมและจัดลำดับโดย Ben Edwin Perry เพื่อใช้ในการศึกษาและอ้างอิงนิทานอีสปอย่างเป็นระบบ) นิทานเรื่องนี้ในตอนแรกมุ่งเป้าไปที่ ผู้ที่ชอบบ่นโดยไม่มีเหตุผล ต่อมาได้รับการเชื่อมโยงกับสุภาษิตว่า “ล้อที่แย่ที่สุดมักส่งเสียงดังที่สุด” และยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์วิจารณ์ผู้ที่ชอบพูดพล่อยหรือโอ้อวดโดยไม่จำเป็นในทุกประเภท

นักเล่านิทานชาวกรีก บาบริอุส (Babrius) ได้รวบรวมสองเวอร์ชันของนิทานที่เล่าถึงวัวที่ออกแรงดึงเกวียนหนักอึ้งพร้อมล้อที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด

  • ในเวอร์ชันหนึ่ง วัวตำหนิเกวียนว่า “เจ้าจะบ่นทำไม ในเมื่อพวกข้าต่างหากที่ต้องทำงานหนักที่สุด”
  • ส่วนในอีกเวอร์ชันหนึ่ง เป็นคนขับเกวียนที่แสดงความโกรธและพูดกับเกวียนว่า “เจ้าบ่นอะไร เกวียนเล็ก ๆ อย่างเจ้าไม่ได้ทำงานหนักเหมือนวัวเหล่านี้เลย”

นิทานทั้งสองเวอร์ชันเน้นให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมของการบ่นหรือร้องทุกข์จากผู้ที่ไม่ได้มีภาระหนักเทียบเท่าผู้อื่น

ผู้ที่ทำงานหนักมักไม่ปริปากบ่น แต่ผู้ที่ไม่ได้ทำอะไรกลับชอบส่งเสียงโอ้อวดหรือสร้างความวุ่นวาย

นิทานอีสปเรื่องอื่น ๆ

ติดตามนิทานทุกรูปแบบได้ที่ talezzz.com